GLOCON จะเดินตามรอย JKN จริงหรือ???

*** ปัญหาหุ้นกู้ของตลาดหุ้นไทยยังคงลุกลามไม่หยุด โดยสิ่งที่น่าสนใจมากในตอนนี้ คือ รูปแบบ (Model) ในการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้หรือที่เรียกให้ดูดีว่า “ขอเลื่อนเวลา” การชำระหุ้นกู้ออกไปของ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN ซึ่งมี 3 ขั้นตอนหลัก ประกอบไปด้วย

การเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ การเสนอดอกเบี้ยเพิ่มเพื่อจูงใจให้ขยายเวลา และขั้นตอนสุดท้าย คือ การยื่นขอเข้าแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง กำลังจะกลายเป็นโมเดลที่ถูกอกถูกใจเจ้าของหุ้นกู้หลายบริษัท ซึ่งกำลังมีปัญหาสภาพคล่องอาจเป็นเหตุให้ไม่สามารถหนี้หุ้นกู้ได้ในปัจจุบัน

*** ล่าสุด บมจ. โกลบอล คอนซูเมอร์ หรือ GLOCON เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่กำลังเดินตามรอยของ JKN ประเภทที่ว่าไม่ว่า JKN จะเดินไปในทิศทางแบบไหน GLOCON ก็เลียนแบบด้วยการเดินตามรอยไปในทุกฝีก้าว ซึ่งสิ่งที่ GLOCON กำลังเดินตามรอยของ JKN ประกอบไปด้วย

อย่างแรก GLOCON ได้ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่ามีความประสงค์ที่จะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ด้วยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เช่นเดียวกับที่ JKN เคยทำมาก่อน

โดยทาง GLOCON จะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น GLOCON242A เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 2 ปี ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 น. เนื่องจากหุ้นกู้งวดที่มีมูลค่าเงินต้น 300 ล้านบาท ที่ว่านี้มีกำหนดชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้งวดแรกจำนวนไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567

อย่างที่สองก็คือ การล่อใจด้วยวิธีเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ขึ้นไปอีก 0.25% จากเดิม ร้อยละ 7.25 ต่อปี เป็น ร้อยละ7.50 ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 จนถึง (แต่ไม่นับรวม) วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2569 ในช่วงเวลาที่ขอขยายอายุหุ้นกู้เช่นเดียวกับที่ JKN เคยทำมาแล้ว

ถึงตอนนี้สิ่งที่ GLOCON  ได้เดินตามรอยของ JKN มีรวมเข้าไปแล้ว 2 ขั้นตอน ซึ่งจะเหลือก็แต่เพียงขั้นตอนสุดท้าย นั่นก็คือ การยื่นขอเข้าแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองจากการทวงถามของเจ้าหนี้ เนื่องจากทันทีที่ศาลล้มละลายกลางรับคำร้อง จะทำให้เจ้าหนี้จะไม่มีสิทธิ์ในการทวงหนี้ไม่ว่าจะกรณีใดในทันที 

ส่วนถ้าจะพูดถึงเรื่องของผลการดำเนินงานของ GLOCON ก็พบว่าบริษัทแห่งนี้ทำตัวเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรมานานหลายปี ...เท่าที่ปรากฏพบว่า ตั้งแต่ปี 62 จนถึงปัจจุบัน บริษัทแห่งนี้ขาดทุนมาตลอด โดยในปี 62 ขาดทุน 59.73 ล้านบาท ปี 63 ขาดทุน 58.71 ล้านบาท ปี 64 ขาดทุน 152.43 ล้านบาท ปี 65 ขาดทุน 422.31 ล้านบาท และช่วง 9 เดือนแรกของปี 66 ก็ยังขาดทุนอีก 117.87 ล้านบาท ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุที่ทำให้จำเป็นต้องคิดตามว่า หากบริษัทแห่งนี้ได้รับการอนุมัติให้เลื่อนการชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปี แล้วบริษัทจะมีเงินมาชำระหนี้ได้จริงหรือไม่

ก็เอาเป็นว่าจากนี้ไปก็คงจะต้องจับตาดูว่า GLOCON จะเดินตามรอย “โมเดลการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้สุดคลาสสิค” ของ JKN ไปจนสุดทางหรือไม่ หรือ ในอนาคตจะมีบริษัทอื่นใดเดินตามแนวทางนี้ด้วยหรือเปล่า เรื่องนี้น่าสนใจจริงๆ เจ้าค่ะ