หอยหมูหน้าตาเปนอย่างไร_ไม่รู้ แต่ว่าความอร่อยค่อนจะสูสีหอยท้ายเภา ดังได้เล่าไว้ในฉบับก่อนหน้า คือ หอยท้ายสำเภาที่ร้านครัวทางเลือกหน้าเมืองพระสมุทรเทวา ปากบาราปากน้ำเมืองสโตย เขาทำให้กินคราวก่อน
ถัดมาที่เมืองกระบี่ อันนี้เขามีหอยชักตีนขาย รูปลักษณ์เปนหอยทรงสังข์เข้าเกลียว ต้มน้ำร้อนให้เดือดดี ใส่ผงชูรสเข้าไปหน่อย แล้วค่อยเอาหอยชักตีนลงไปลวก สุกดีเอาขึ้นมาให้จิ้มฟันจิ้มแล้วหมุนบิดได้รสหวาน_หนุบ_อร่อย
อีกหอยอร่อยของแดนใต้ คือ หอยจุ๊บแจง ที่พังงา ตรงแถวบางเตย เขาเอาหอยรูปทรงเจดีย์นี้ปาดยอดเข้าหน่อย แล้วค่อยเอาไปแกงอย่างแกงคั่วใส่กะทิ เรียกแกงคั่วหอยจุ๊บแจง กินโดยทั้งแกะทั้งแงะและดูดจ๊วบ เนื้ออ่อนๆเคี้ยวหนึกๆกินชุ่มน้ำแกงเจือขมิ้นเผ็ดร้อน
มาวันนี้ มาบ้านอำเภอ _ ซึ่งก็อีกน่ะหละ อำเภออะไรก็ไม่รู้ อยู่ก่อนจะถึงสัตหีบ มาจากนาจอมเทียน ถึงบ้านอำเภอ ก็ไม่รู้หรอกว่าอำเภออะไร?! รู้แต่ว่าขึ้นมัธยมแล้ว พ่อไปนั่งพิพากษาคดีที่ศาลฐานทัพเรือสัตหีบ สมัยก่อนการสวัสดิการนั้นหลวงจ่ายน้ำมันเบนซินเปนแกลลอนใส่ท้ายรถส่วนตัวเรา เพื่อเติมเอาเอง
ทะเลสัตหีบเปนบ้านชั่วคราวนับแต่นั้น ในตลาดสัตหีบมีปลาสลิดหิน แม่ซื้อมา grill กินกับวาซาบิผงแห้งอัดกระป๋อง มีโรตีใส่กล้วยหอมสับๆอร่อยเข้มข้น
ต่อมาอีกหลายปี วิกฤตต้มยำกุ้งเยี่ยมกรายได้อาศัยเวลาเช้าไปเรียน บ่ายทำงานรับจ้าง ท่านผู้กรุณาจ้างก็สั่งให้ไปดูที่ผืนใหญ่ ตรงบ้านอำเภอ
ท่านเปนลูกท้าวพระยามหาเศรษฐี น้าๆแห่งท่านนั่งรถ toyota crown ดำ แต่งเสื้อขาวกางเกงดำทุกคนไป_ลักษณะยังกะมาเฟียยี่ปุ่น 55
เสร็จงานแล้ว ท่านให้ไปกินข้าวที่นี่ “บ้านอำเภอซีฟู้ด”
วานนี้จะไป ปันปัน เพื่อรำลึกว่าครั้งหนึ่งกินอร่อยที่หลังสวน ก็ไปผิดสาขาที่พัทยา
ขึ้นไปเขาหมอนดูเรดาห์ ท่านผู้มิตรเก่าแต่ภพหลังก็พาลัดเลาะลงมาอีก ที่ บ้านอำเภอซีฟู้ด ร้านบ้านอำเภอซีฟู้ดก็ยังคงความสวยงามคลาสสิคตามกาลเวลา ที่หาดหน้าร้านตะวันรอนแสงลงแล้วยังมีเรือไม้เรือเล็กเรือยอร์ชจอดกันอยู่ประปราย หลบคลื่นท้าทายอยู่ในมุมกำแพงหิน ต้นไม้ทะเลใบมันปลาบ(ลดการคายน้ำ)ออกเกษรสวยสะดุดตา ลมทะเลแห่งอ่าวไทยพัดมาโชยเอื่อยเฉื่อยสงบงามนัก
เข้าที่แล้วก็เริ่มต้นด้วยหอยหมูลวกจิ้ม ของดีที่หารับประทานได้ยาก รสชาติหนึกๆผสมกรุบ รับประทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรดั้งเดิม ลบภาพความหวือหวาแห่งความล้ำยุคล้ำสมัยออกไป เหลือไว้แต่ความสงบเรียบง่ายในรสธรรมชาติดั้งเดิมแห่งอาหาร
ต่อด้วยของคลาสสิค อีกสักอย่าง พล่าปลาอินทรีย์ใส่ไข่ปลาสเตอเจี้ยนไทย (ปลาเรียวเซียว) รสชาติลงตัวขนาดว่าสี่สิบปีไม่มีเปลี่ยน หอมสดชื่นด้วยใบสะระแหน่เขียวสวย
แสบคอเข้าก็ต้องแก้ด้วยข้าวผัดปู เรียงเม็ดสวย เป็นข้าวผัดปูแบบคนไทยผัด ไม่ใช่ข้าวผัดปูแบบคนจีนผัด ข้าวผัดปูสไตล์คนไทยนี้ยังมีอยู่อีกแห่งหนึ่งที่แม่กลองวันหลังจะชวนท่านไปลองรับประทานเป็นจริงเป็นจังอีกครั้งหนึ่ง
ในเวลาเดียวกันท่านที่ไม่สามารถรับประทานคาร์โบไฮเดรตได้มาก ก็น่าจะลองหอยนางรมตัวเต่งๆของเขาผัดออส่วนแบบเหนียว รับประทานกับซอสพริกศรีราชารสชาติสุขุม ก็แน่นอนเป็นออส่วนสไตล์คนไทยผัดอีกนั่นแหละไม่ใช่ของคนจีนผัด ซึ่งให้ความรู้สึกตรงไปตรงมาอย่างชาวทะเลโดยแท้