ที่ละแวกเสาชิงช้า ถ้าว่าเหลาอย่างว่าภัตตาคารจีนแล้วไซร้ ไม่หนีสองเจ้าสำคัญคือ ย่งฮั้ว กับ ปู้เฮ้า
เขา(วัยรุ่น) พากันแซวว่า แหม่ คุณอา_พามากินกับข้าวเอสคลาสอีกล่ะ
ก็แน่ล่ะ ปรัชญาประจำรถธงของเยอรมันรุ่นนี้เขาว่า ‘change only when need (ed)’
จะเปลี่ยนแปลงกันก็ต่อเมื่อถึงเวลา 55 ก็ทำกันมาอย่างดิบดีแล้วนี่จะเปลี่ยนทำไม๊
ของคาวจานอร่อยของย่งฮั้วต้องยกให้ หอยอีรมผัดออส่วน แหม่ คุณๆครับ เขาใช้หอยใหญ่ตัวเป้งๆนิ้วหัวแม่มือ ทอดกับแป้งมันฮ่องกงใส่ไข่เป็ดแดงๆ ยกมาร้อนฉ่าโรยผักชีหั่น
กินกันโดยเพลิดเพลินกับประดากุ้งหอยปูปลารวมมิตร ต้มยำน้ำใสคลาสสิกหอมตะไคร้ รึไม่ก็เอาทะเลลวกเหล่านั้นไปยำโดยชื่นใจ เขาจะใส่ปลาหมึกด่างที่เรียกกันสมัยนี้ว่าปลาหมึกกรอบชิ้นโตๆมาให้ ใส่พริกสดหอมหั่นบีบมะนาวแท้
นอกนี้มีไก่เอาไปย่างไฟแดงให้หนังกรอบแล้วเลาะหนังมากินกับหม่านโถว ทำนองหมูหันโรยซีอิ้วดำหวาน เนื้อไก่เอาไปทอดกระเทียมกินแกล้มเหล้า บร้ะ แล้ว!
เลี่ยนปากขอเขาเอาหมูหมักผักพริกใบกะเพราให้ก็อร่อยเอร็ดสมใจ
ปลาสดๆทั้งเก๋ากระพง เอานึ่งบ๊วยนึ่งซีอิ๊วกินเต็มปากเต็มคำ
ของหวานที่ควรชื่นชมคือ โอวหนี่ ซึ่งครูแต้จิ๋วว่า ออกเสียง โอ่วนี้ โอ่วคือเผือก นี้คือน้ำเหนียว ใส่แปะก๊วย และพุทราจีน เขามูนข้าวเหนียวใส่เผือกกวนไม่หวานประโคมเม็ดแปะก๊วย พุทราเชื่อมเข้าไป แล้วประสานด้วยยางเหนียวจากการกวนน้ำเชื่อมแป้งมัน
ท่านว่าไม่ใช่แต่ของอร่อย ทว่า เปนมงคลรหัสนัย ของมีหลายอย่างทั้งข้าว ทั้งกะทิมะพร้าว ทั้งเผือกทั้งน้ำตาล แปะก๊วยบนต้นแกะเปลือกลำบาก พุทราทำแห้งแล้วต้องเชื่อมเงา มาประสานกลมเกลียวด้วยน้ำเหนียว ท่านหมายถึงพวกเราทั้งหลายต่างคนต่างที่มา สมควรนักที่จะประสานสามัคคีร่วมมือกันเกื้อหนุนกันให้เจริญรุ่งเรืองงานนี้ว่าการมาออกโต๊ะจีนเลี้ยงพระท่านเจ้าคุณพระเทพวัชรดิลก กับพระสงฆ์ทั้งอาราม ในการสนองคุณท่านบิดาทำฉลองอัฐิครบ 50 วัน ย่งฮั้วก็ยินดียกครัวมาบริการโต๊ะจีนให้ มากันครบทั้งคนทำคนบริการ น่าชื่นชมในความแข็งขันและรสชาติเอร็ดอร่อยโอชา
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 หน้า 18 ฉบับที่ 3,921 วันที่ 10 - 13 กันยายน พ.ศ. 2566