เก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง100% ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจ

23 เม.ย. 2565 | 08:58 น.
อัปเดตล่าสุด :23 เม.ย. 2565 | 16:05 น.
2.5 k

บทบรรณาธิการ

รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังประกาศเดินหน้าเก็บ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100% ตั้งแต่เดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ได้ให้อัตราลดหย่อนภาษี 90% จัดเก็บจริงเพียง 10% เท่านั้น โดยให้ประชาชน เอกชนผู้ครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปใช้สิทธิในการลดหย่อนตามกฎหมาย หลังจากกฎหมายนี้ออกมาในรอบ 2 ปีที่ผ่านมามีลดหย่อนการจัดเก็บมาโดยตลอด และรัฐสูญเสียรายได้ไประมาณ 3.5 หมื่นล้าน 


ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จัดเก็บเป็นอัตราขั้นบันไดของมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และแยกประเภทที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกเป็น 3 ประเภท ที่ดินเพื่อการเกษตร มีอัตราภาษีตั้งแต่ 0.01-0.1% โดยยกเว้นภาษีให้กับที่ดินเพื่อการเกษตรที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท

ที่ดินเพื่ออยู่อาศัย มีอัตราตั้งแต่ 0.02-0.1% กรณีมีชื่อเป็นเจ้าของและเป็นบ้านหลักมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาทได้รับการยกเว้น 


ที่ดินประเภทเพื่อการพาณิชย์ อุตสาหกรรม และที่รกร้างว่างเปล่า มีอัตราภาษีตั้งแต่ 0.3-0.7% เฉพาะที่ดินรกร้างว่างเปล่าจะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 0.3% ในทุกๆ 3 ปี

รัฐบาลอาจมีเป้าหมายให้ท้องถิ่นได้รับเม็ดเงินภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย หลังจากจัดเก็บเพียง 10% เสมือนชะลอบังคับใช้มาหลายปี ที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) เองก็โอดครวญในแง่รายได้ในการพัฒนาท้องถิ่น ที่แม้รัฐบาลกลางจะจัดสรรรายได้มาชดเชยบ้าง แต่อาจไม่เหมือนการจัดเก็บดำเนินการเองในอัตราภาษีเต็ม 100% 


อย่างไรก็ดี การจัดเก็บในอัตรา 10% ในช่วงที่ผ่านมาก่อนประกาศเพิ่มเป็น 100% ในคราวเดียวอาจมีผลกระทบรุนแรงกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ประสบปัญหาชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา จากปัญหาเศรษฐกิจโดยรวม ซ้ำเข้าด้วยกับสถานการณ์โควิด ส่งผลให้ต้นทุนของภาคอสังหาฯเพิ่มขึ้นทันที 90% 

 

โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีทรัพย์สินรอการขาย ประเภทคอนโดมิเนียม อาคารชุด ที่มีสต๊อกคงเหลือซึ่งกำหนดเวลาให้แค่ 3 ปี ต้องปิดโครงการให้ได้ หรือ ต้องขายให้หมด หลังโครงการหลังได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง หากไม่สามารถระบายออกได้สต๊อกคงเหลือ จะถูกจัดเก็บในอัตราภาษีประเภทอื่นๆ (การพาณิชย์) ทันที เป็นการซ้ำเติมภาระต้นทุนให้สูงขึ้นในคราวเดียวและจะถูกผลักภาระไปให้ผู้บริโภค ที่มีปัญหากำลังซื้ออยู่แล้ว และยังกระทบไปถึงผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่ยังไม่ฟื้นตัว จากสถานการณ์เศรษฐกิจและโควิด 


ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นฐานสำคัญของเศรษฐกิจในภาพรวม รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงควรทบทวนการจัดเก็บในคราวเดียว 100% โดยอาจขยับอัตราการลดหย่อนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมกำลังซื้อที่หดหายและภาวะเศรษฐกิจโดยภาพรวมในปัจจุบันระยะนี้ไปจนถึงปลายปี 


พร้อมกับทบทวนแนวปฏิบัติการจัดเก็บให้ชัดเจน ป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีของผู้ครอบครองที่ดินที่ไม่ได้ทำประโยชน์ให้เกิดความเป็นธรรม