จุดจบเจ้าแม่ วงการตลาดหุ้นไทย

30 ธ.ค. 2564 | 17:49 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ธ.ค. 2564 | 00:56 น.
60.5 k

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ By...เจ๊เมาธ์

*** ข่าวช็อก!!!! วงการตลาดทุนไทย ส่งท้ายปีเก่า 2564 สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศลงโทษ “ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ” ทั้งปรับและแบล็คลิสต์ การเป็นผู้บริหารตลาดทุน เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน พร้อมกับ “วิภา เลิศเธียรชัยกุล” 
      

ไม่มีใครคิดว่า เจ้าแม่ตลาดหุ้นอย่าง “ภัทธีรา” จะถูกย้อนศรนาทีสุดท้าย ก่อนจบชีวิตการเกษียณ ในตำแหน่งหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส ที่น่าจะจบแบบสวยๆๆ ไปเป็นกรรมการที่ปรึกษา เฉกเช่นผู้มีความสามารถในตลาดทุน ปฏิบัติกัน กลับมาด่างพร้อยกับคำกล่าวโทษของก.ล.ต.

“ภัทธีรา” เป็นอดีตนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ หรือสมาคมโบรกเกอร์ ถึง 2 สมัย หรือ 8 ปี เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ เป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาความผิดในก.ล.ต. เพื่อนร่วมอาชีพในตลาดทุน เคยถูกเธอร่วมตัดสินความผิดมาก็หลายคน   

 

ความผิดครั้งนี้ของอดีตซีอีโอ ดีบีเอส วิคเคอร์ มีสาเหตุจากการปล่อยให้ลูกค้าต่างชาติ ขายหุ้นออกไปโดยไม่มีใบหุ้น ในวันที่ MSCI ปรับพอร์ตลงทุน เมื่อ 2-3 ปีก่อน จนสร้างประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย ซื้อขายกว่า 2 แสนล้าน เหตุการณ์นี้มีเพื่อนร่วมอาชีพและโบรกเกอร์ สังเวยชีพถูกตลาดหลักทรัพย์ปรับ และออกไปก่อนหน้า 


ก.ล.ต.อ้างเหตุการณ์นี้เป็นเหตุลงโทษ “ภัทธีรา” ที่ปล่อยละเลยให้มีการทำเน็กเก็ตชอร์ต หรือขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นครอบครอง ทำให้การดำรงเงินกองทุนสุทธิของบริษัท ดีบีเอสวิคเคอร์ส ไม่เพียงพอ 

การลงโทษของก.ล.ต.ครั้งนี้ ไม่ได้เชือดไก่ให้ลิงดู แต่เป็นการประกาศให้รู้ว่า ไม่มีใครอยู่เหนือความผิด ที่ปิดด้วยฝ่ามือไม่ได้


*** การหลุดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 พร้อมกันกลายเป็นไฟท์บังคับที่กองทุนซึ่งลงทุนใน DELTA จะต้องปรับพอร์ตเพื่อระบายของและลดความเสี่ยง ซึ่งไม่ว่า DELTA จะมีพื้นฐานดีแค่ไหน แต่การหลุดออกมาจากดัชนีคำนวณทั้งสองพร้อมกันก็จะทำให้ความเชื่อมั่นหายไปแบบที่ไม่จำเป็นต้องคิดตามเลยว่าทำไม 


ขณะเดียวกันก็มีหลายกองทุนอยากจะขายหุ้นตัวนี้ทิ้งวันละหลายสิบรอบแต่ก็ขายไม่ได้ เพราะจำเป็นต้องการจายความเสี่ยงของหน่วยลงทุน ด้วยการถือหุ้นที่อยู่ใน SET50 และ SET100 ซึ่งเมื่อ DELTA หลุดออกมา ซึ่งคราวนี้ก็ได้ขายสมใจซะที  


สุดท้ายคือราคาหุ้นที่ปรับขึ้นลงอย่างไม่มีเสถียรภาพ เพราะถูกลากราคาเพื่อการเล่น DW ซึ่งจะเป็นโดยปกติจะเป็นอภิสิทธิ์สำหรับหุ้นที่อยู่ใน SET100 ขึ้นไปเป็นหลัก ซึ่งหลังจากนี้เมื่อไม่ได้อยู่ในทั้ง SET50 และ SET100 ก็จะทำให้ไม่มีบริษัทใดออก DW เพื่ออ้างอิงราคาหุ้นของ DELTA ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันเบาบางตามลงไปด้วย 


เอาเป็นว่าใครที่ติดอยู่ก็ไม่ต้องคิดมาก ประมาณว่า ถ้าไม่เจ็บตัวมากก็ถึงคราวต้องมาคิดว่าทำยังไงถึงจะไม่เจ็บตัว...หรือเจ็บตัวน้อยที่สุดได้แล้วนะคะ จนถึงตอนนี้คำพูดที่ว่า “ไม่ขายไม่ขาดทุน” น่าจะใช้กับ DELTA ไม่ได้อีกแล้วค่ะ


*** “ขยะทองคำ” ไม่เคยมีจริง...เจ๊เมาธ์เคยบอกไปแล้วว่าหุ้นขยะ (ทองคำ) BWG ตัวนี้มีทรงหุ้นดูแปลกๆ เพราะหลายปีแล้วที่หุ้นตัวนี้วนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ และมีผลการดำเนินงานแบบเดิมๆ แต่พอมีนักลงทุนระดับ “แม่มด” ในตำนานอย่าง “เจ๊สีสัน” เข้ามาเกี่ยวข้องก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างของ BWG เริ่มแตกต่างออกไป มีข่าวปล่อยเรื่องจะลงทุนในโรงไฟฟ้าขยะขนาด 200 เมกะวัตต์ ซึ่งทำให้บริษัทที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรถูกดันราคาหุ้นจนขึ้นไปสูงสุดในรอบหลายปี 


จะสงสารก็แต่พวกนักลงทุนที่หวังปาฏิหาริย์ที่ “ขยะ” อาจจะกลายเป็น “ปาเต๊ะ” แต่สุดท้ายเพราะย่างนานไปหน่อย...จาก “ปาเต๊ะ”  ที่เคยหวังว่าจะได้ กลับกลายมาเป็นว่าแค่ “หมูสะเต้ะ” ก็ไม่มีเหลือให้กิน 


ก็ไม่รู้ว่าผู้บริหารบริษัทเป็นใจ..หรือปิดหูปิดตา เพราะเมื่อสอบถามก็ได้คำตอบว่าไม่รู้เรื่อง..ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น แต่เจ๊เมาธ์บอกได้เลยว่าถ้าเล่นกับ “แม่มด” มันมีแต่เรื่องเจ็บตัวนะคะ ไม่แน่ว่าตราบาปนี้อาจจะทำให้ BWG ต้อง “คำสาป” กลายเป็นหุ้นหวือหวาที่นักลงทุนกลัวและไม่อยากยุ่งไปอีกนานเลยค่ะ


*** ดูเหมือนว่า SET50 จะเปรียบได้กับบ่อเงินบ่อทองในตลาดหุ้นที่สามารถจะชุบชีวิตและปรับสภาพให้หุ้นที่ถูกคัดเลือกกลายเป็นของดีขึ้นมาทันที ไม่ต้องมองดูหุ้นตัวอื่น...เอาแค่ TIDLOR มาเป็นตัวอย่างก็ได้ เพราะภายหลังจากการประกาศว่าถูกคัดเลือกให้เข้าไปอยู่ใน SET50 ก็ทำให้ราคาหุ้นของ TIDLOR เด้งขึ้นมาเหมือนติดสปริงทันที หากจะถามว่า TIDLOR ดูดีหรือเปล่า เจ๊เมาธ์สารภาพเลยว่าตั้งแต่หุ้นตัวนี้เข้าตลาดมาเจ๊ไม่เคยคิดจะสนใจ...แต่ตอนนี้เจ๊เมาธ์คิดว่าเจ๊ต้องกลับมามองหุ้นตัวนี้ใหม่อีกครั้งแล้วนะคะ บอกเลยว่าตอนนี้ทั้งทรงหุ้นทั้งสตอรี่ของหุ้นตัวนี้ใช้ได้ มองใกล้ๆที่ 40 บาทก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยาก และถ้าหากมองระยะกลางถึงยาวราคาหุ้นแถวๆ 50-55 บาทตามที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ก็ดูจะเป็นไปได้เหมือนกัน ตอนนี้ชุบตัวมาแล้วเรื่องที่เคยยากอาจจะกลับมาเป็นเรื่องง่าย อีกไม่นานก็คงจะได้รู้กันนะคะ นาทีนี้ TIDLOR น่าสนใจขึ้นมาแล้วค่ะ


*** GULF คือหุ้นอีกหนึ่งตัวที่เจ๊เมาธ์อยากให้จับตาดู เพราะนอกจากผลของการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่างที่เริ่มจะเห็นผล ก็ยังมีเรื่องของมุมมองในการบริหารการลงทุนที่ถ้ามีโอกาสแล้ว GULF จะไม่พลาดที่จะเข้าไปลุยทันที 


นอกจากนั้นแล้วเรื่องการเข้าไปถือหุ้นใหญ่ใน INTUCH รวมถึงการมีอิทธิพลโดยอ้อมผ่านทาง ADVANC และ THCOM ก็จะส่งผลให้ GULF กลายเป็นผู้มีอิทธิพลในระบบโครงสร้างการสื่อสารในระบบดิจิทัลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มของ INTUCH เช่น ระบบ Data Center, Cloud Computing มาต่อยอดการเติบโตในธุรกิจไฟฟ้าของ GULF หรือแม้แต่ฐานลูกค้าผู้ใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของ ADVANC จำนวนกว่า 43 ล้านเลขหมายก็จะถูกนำมาต่อยอดทางธุรกิจได้อีกเช่นกัน เอาเป็นว่าปี 65 จับตาดู GULF เอาไว้ให้ดี...น่าสนใจมากค่ะ