“กาสิโนคอมเพล็กซ์” งานวิจัยระบุ...ชุมชนพัง

23 ธ.ค. 2564 | 12:11 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ธ.ค. 2564 | 19:21 น.
1.1 k

คอลัมน์ทางออกนอกตำรา โดย...บากบั่น บุญเลิศ

ก่อนที่รัฐสภาจะพิจารณาโครงการ “กาสิโนคอมเพล็กซ์” ผมอยากพามาดู รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ “เครือข่ายชนชั้นนำทางเศรษฐกิจการเมืองและผลกระทบของบ่อนกาสิโนตามชายแดนไทย-กัมพูชาในเขตจังหวัดภาคตะวันออก” ที่ ชัยยนต์ ประดิษฐ์ศิลป์ นักรบ เถียรอ่ำ วงธรรม สรณะ และคณะ ได้ทำการวิจัยในโครงกาของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย 3 ข้อดังนี้


1.1 เพื่อศึกษาการเชื่อมร้อยเครือข่ายระหว่างชนชั้นนำทางเศรษฐกิจและการเมืองของไทยและกัมพูชาในการลงทุนบ่อนตามแนวชายแดนของจังหวัดจันทบุรีและตราด 

 

ผลการศึกษาพบว่า ในการลงทุนบ่อนกาสิโนของเครือข่ายชนชั้นนำทางเศรษฐกิจและการเมืองตามแนวชายแดนจังหวัดจันทบุรี และตราดนั้น เกิดขึ้นภายใต้เครือข่ายทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยชนชั้นนำที่อยู่ในเครือข่ายการลงทุนจะประกอบด้วย 2 กลุ่มหลัก คือ

 

1) กลุ่มชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ นักธุรกิจท้องถิ่น นักธุรกิจจากกรุงเทพมหานคร และนักธุรกิจข้ามชาติจากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย


2) กลุ่มชนชั้นนำทางการเมือง จะประกอบไปด้วย นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดจันทบุรีและตราด ตั้งแต่ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นต้นไป และนักการเมืองของประเทศกัมพูชา ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี จนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด

3) การเชื่อมร้อยเครือข่ายนั้นมีพัฒนาการมาจากการลงทุนธุรกิจในอดีตอย่างไม่เป็นทางการ เช่น การขุดพลอย ทำไม้ ค้าน้ำมัน ค้าบุหรี่ เป็นต้น จนก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่น ก่อนที่จะมาลงทุนบ่อนกาสิโนร่วมกัน
 

1.2 เพื่อศึกษากระบวนการบริหารบ่อนกาสิโนตามแนวชายแดนของชนชั้นนำทางเศรษฐกิจและการเมืองจังหวัดจันทบุรีและตราด 


ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการบริหารบ่อนคาสิโนของชนชั้นนำทางเศรษฐกิจและการเมืองตามแนวชายแดนจังหวัดจันทบุรี และตราด เป็นการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อแสวงหากำไรจากการลงทุน จึงต้องให้ความสำคัญต่อการบริหาร ทั้งนี้ในการบริหารงานบ่อนกาสิโน 


โดยสามารถสรุประบบการบริหารได้ 5 รูปแบบ คือ การส่งเสริมการตลาด การบริหารบุคคล การบริหารความเสี่ยง การบริหารงานสนับสนุน และการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวกับความมั่นคง นอกเหนือจากการบริหารงานสนับสนุนจากองค์กร 


1.3 เพื่อศึกษาผลกระทบจากการเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีต่อชุมชนในเขตจังหวัดภาคตะวันออก โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย 2 ข้อ


เพื่อศึกษากระบวนการเล่นการพนันบ่อนกาสิโนของชุมชนในจังหวัดจันทบุรี และเพื่อศึกษาผลกระทบจากการเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาดที่มีต่อชุมชนในจังหวัดจันทบุรี


ผลการศึกษา สรุปได้ว่า กระบวนการเล่นการพนันบ่อนคาสิโน ของชุมชนในจังหวัดจันทบุรีระหว่างชุมชนชายแดนและชุมชนในตัวจังหวัดมีความเหมือนและความแตกต่างกันดังนี้


ความเหมือนของกระบวนการเล่นการพนันบ่อนคาสิโนของชุมชนทั้งสองที่เห็นได้ชัดคือ ผู้เล่นการพนันส่วนใหญ่ของชุมชนทั้งสอง ถือได้ว่าเป็นผู้เล่นรายย่อย คือ เข้าไปเล่นโดยแทงในวงเงินน้อยกว่าหลักหมื่นบาทลงมา ดังนั้น การเล่นจึงเป็นการใช้เงินสดและเล่นอยู่ในห้องรวมที่เรียกว่า “สนามทราย” และผู้เล่นรายย่อยมีฐานะในบ่อนเป็นหน้าม้า หรือ เป็นรายได้ที่นำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารบุคคลากรภายในบ่อนกาสิโน


ส่วนชุมชนในตัวจังหวัดจะมีกระบวนการเล่นการพนันบ่อนกาสิโน บนฐานการต่อยอดจากการพนันของบ่อนบ้านที่มีอยู่ และผู้เล่นพนันจะมีลักษณะเป็นเรื่องของปัจเจกชน คือ เป็นการเล่นแบบตัวใคร ตัวมันค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงเป็นการเรียนรู้ส่วนตัวทำให้การเล่นพนันบ่อนกาสิโนของชุมชนในตัวจังหวัดจึงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ยุติเหมือนชุมชนชายแดน


ทั้งนี้ จังหวัดจันทบุรี มีบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชาจะพบว่ามีการเปิดบ่อนการพนัน 2 จุด คือ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องผักกาด และตลาดการค้าบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ได้แก่ บ่อนไพลิน ซีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล วิคตอเรีย มงกุฎและดรีมเวิร์ล ซึ่งตั้งอยู่บริเวณบ้านผักกาด ส่วนบริเวณบ้านแหลม ได้แก่ บ่อนดราก้อนคลับ เจ้าพระยาคลับ และรีโอกาสิโน


จังหวัดตราด มีบ่อนที่จุดผ่านแดนถาวรที่บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ โครงการเกาะกง อินเตอร์เนชั่นแนล รีสอร์ท คลับ ตั้งอยู่บ้านจามเยี่ยม อำเภอมณฑลสีมา จังหวัดเกาะกง ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรประมาณ 800 เมตร


ผลกระทบของบ่อนกาสิโนบ้านผักกาดต่อชุมชนด้านเศรษฐกิจ ชุมชนเมืองจันทบุรีในฐานะที่เป็นนักเล่นการพนันส่วนใหญ่ของบ่อนกาสิโน ชายแดนบ้านผักกาดได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจเป็นกรณีๆ ไปมากกว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งชุมชน เนื่องจากในชุมชนเมืองจันทบุรีนั้น มีวิถีชีวิตพื้นฐานนั้นอยู่ที่แต่ละครอบครัวซึ่งแตกต่างจากชุมชนในชนบท เช่น ชุมชนชายแดนบ้านคลองใหญ่ที่ยังคงมีลักษณะของการทำกิจกรรมแบบชุมชนมากกว่า


ผลกระทบทางเศรษฐกิจด้านบวก นักเล่นพนันในอำเภอเมืองส่วนใหญ่ที่ไปบ่อนกาสิโนบริเวณชายแดนบ้านผักกาด กล่าวว่า การไปเล่นบ่อนกาสิโนที่ชายแดนนั้น สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับตนเอง ดีกว่าการอยู่บ้านว่าง ๆ ซึ่งไม่ได้ประโยชน์ นอกจากไปบ่อนเพื่อความสนุกสนานแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้เสริมจากการหิ้วสินค้าชายแดนมาขาย ได้แก่ บุหรี่ ไพ่ ผัก ผลไม้ ข้าว ร่ม ผ้าห่ม มุ้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า ยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ของหนีภาษีจากจีน เป็นต้น 


โดยเฉพาะบุหรี่ เนื่องจากมีราคาถูกทำให้ร้านค้าปลีกนิยมฝากซื้อเพื่อนำมาแบ่งขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตนเอง สามารถซื้อได้ง่ายมากขึ้น ภายหลังจากซื้อมาให้ร้านขายปลีกแล้ว ตนเองก็ผันตัวมาเป็นผู้ขายรายย่อยเช่นเดียวกันในหมู่กลุ่มวัยรุ่น รวมถึงการซื้อแบบยกแพคในกลุ่มคิวรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งนักเล่นการพนันบ่อนกาสิโนจะใช้รายได้ที่เกิดขึ้นเป็นทุนในการเล่นพนันครั้งต่อไป ทำให้กลุ่มนักเล่นพนัน


บ่อนกาสิโนไม่ค่อยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเชิงลบ เพราะเป็นการเล่นที่ใช้ทุนจากรายได้เสริม ในการซื้อบุหรี่นั้น โดยปกติจะจำกัดจำนวนการซื้อคนละไม่เกิน 1 คอตตอน ซึ่งผู้ที่หารายได้เสริมจะใช้วิธีการกระจายไปยังผู้อื่นที่เดินทางมาด้วยกัน แต่มิได้ซื้อบุหรี่ของตนเองกลับไป โดยหมุนเวียนกัน “หิ้ว”


ผลกระทบทางเศรษฐกิจด้านลบ สำหรับนักเล่นพนันในอำเภอเมืองพบว่ากลุ่มคนรวยจะมีโอกาสหมดตัวมากกว่ากลุ่มคนจน เนื่องจากคนจนมีข้อจำกัดในเรื่องทุนมากกว่าคนรวย  


ตัวอย่างเช่น คนจนต้องใช้เงินเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ในขณะที่คนรวย กรณีตัวอย่างของครอบครัวเจ้าของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่มีฐานะในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งลูกชายเจ้าของปั๊มเป็นนักเล่นการพนันของบ่อนกาสิโนบ้านผัดกาด ผลจากการเล่นพนันทำให้ลูกชายต้องเสียเงินไปในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท จนมีคนกล่าวถึงว่า “มีเมียคนแรก หมดไป 5 ล้านบาท ได้เมียคนที่สอง หมดอีก 10 ล้านบาท” 


กล่าวโดยสรุปแล้ว ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับนักเล่นการพนัน เมื่อเปรียบเทียบกับนักลงทุนบ่อนกาสิโน หรือ เจ้ามือกาสิโนนั้น นักเล่นการพนันเป็นฝ่ายต้องสูญเสียในระยะยาว ดังจะเห็นได้จากคำสัมภาษณ์ของผู้มีประสบการณ์ในบ่อนการพนันกาสิโนว่า “ไม่เป็นเจ้าเล่นยังไงก็เจ๊ง” (นายพูล ผู้บริหารบ่อนชายแดนแห่งหนึ่ง: สัมภาษณ์ 1 สิงหาคม 2556)


“คนรวยเล่นจากเศรษฐี กลายเป็นผีข้างบ่อน” (นายพูล ผู้บริหารบ่อนชายแดนแห่งหนึ่ง: สัมภาษณ์ 1 สิงหาคม 2556)


“เจ้าของบ่อนได้แน่ๆ เจ้ามือมีได้มีเสีย คนเล่นยังไงก็เสีย” (นายสิทธินักการเมืองท้องถิ่น และผู้ประกอบการ: สัมภาษณ์ 16 กรกฎาคม 2556)


“เล่นไปก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง ไม่เห็นมีใครเคยรวยเพราะพนันเลยซักคน”(นาย จ: สัมภาษณ์21 ตุลาคม 2556)


ผลกระทบในด้านสังคมที่เกิดขึ้นจากบ่อนกาสิโนชายแดน ที่มีผลเป็นกรณีๆ ไป คือ ปัญหาการค้ายาเสพติดหลังการเสียพนัน สำหรับผลกระทบของบ่อนกาสิโนที่มีต่อการค้ายาเสพติดเพิ่มขึ้นนั้น มาจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ขนยาบ้ามาจากชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ด่านตรวจเขาเกลือ อำเภอมะขาม จากการจับกุมพบว่า ผู้ที่ขนยาบ้ามาอ้างว่า ทำไปเพราะเสียการพนันจนหมดตัวจากบ่อนชายแดนบ้านผักกาด จึงมาสรุปเป็นคำสัมภาษณ์ที่ว่า“หมดเงิน ไปค้ายาบ้า” (กลุ่มนักการเมืองในพื้นที่เทศบาลคลองใหญ่: สัมภาษณ์ 8 พฤษภาคม 2556)


พิจารณางานวิจัยแล้ว คุณคิดอย่างไร!