รถบรรทุก“กินแห้ว” ดีเซลลิตรละ 25 บาท

คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3733 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 21-24 พ.ย.2564 “ว.เชิงดอย” นำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อประโยนช์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง

***  ไปเริ่มกันที่สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทย ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานข้อมูล ณ วันที่ 17 พ.ย.2564 ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 6,524 ราย ยอดติดเชื้อสะสมระลอกเดือนเมษายน 2564 จำนวน 2,008,361 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสมของประเทศไทย 2,037,224 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 56 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 20,199 ราย หายป่วยเพิ่ม 7,191 ราย หายป่วยสะสมระลอกเมษายน 1,898,217 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 91,382 ราย ประเทศไทยถือว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก

ส่วนความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยนั้น พบว่า มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 659,381 ราย คิดเป็นเข็มที่ 1 สะสม 63.4% เข็มที่ 2 สะสม 52.1 % และเข็มที่ 3 สะสม 3.49% โดยเป้าหมายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ควรได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ครอบคุลมประชากรทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 70%

อย่างไรก็ตาม อัตราการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 น้อยกว่าเข็มที่ 2 เกือบครึ่ง โดยเป็นเข็มที่ 1 กว่า 2 แสนโดส เข็มที่ 2 กว่า 4 แสนกว่าโดส และยังมีผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลยอีกประมาณ 11 ล้านคน พญ.สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค บอกว่า เรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ช่วยกันเร่งรัดการฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างๆ ให้มากขึ้น”

***จากเรื่อง “โควิด-19” ไปดูปัญหาราคา “น้ำมันแพง” โดยเฉพาะ “น้ำมันดีเซล” ที่ผู้ประกอบการรถบรรทุกขนส่งสินค้าออกมา “ฮึ่มๆ” เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลที่ราคาลิตรละ 25 บาท ถึงจะพอเหมาะสม และพอใจ ขณะที่บางฝ่ายก็ออกมาเรียกร้องให้ “ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน”

แต่ล่าสุด อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมายืนยันแล้วว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรแล้ว ซึ่งเป็นไปตามบทบาทของกองทุนน้ำมันฯ ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้รักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันเป็นหลัก โดยที่ผ่านมาก็ได้ยืดหยุ่นการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันตามสถานการณ์

รมต.คลังชี้ว่า การจะลดภาษีหรือไม่ ต้องดูกำลังของกองทุนน้ำมันฯ ซึ่งขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ ยังมีกำลังในการดูแลราคาได้ และล่าสุด ครม.ก็อนุมัติขยายกรอบการกู้เงินเป็น 30,000 ล้านบาท เพื่อให้สามารถเข้าไปดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งหากกู้เงินเต็มเพดานแล้ว แต่สถานการณ์ราคายังไม่ดีขึ้น ก็ยังขยายเพดานได้

พร้อมอธิบายว่า ในช่วงปลายปี จะเป็นช่วงปกติที่ราคา “น้ำมันดีเซล” ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว และล่าสุดสหรัฐอเมริกา ก็เริ่มทยอยนำน้ำมันในคลังมาใช้ ซึ่งจะช่วยทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงได้ นอกจากนี้หลายๆ ประเทศ เริ่มมีนโยบายมุ่งใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เพื่อลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล ซึ่งไทยก็มีนโยบายในการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และจะมีความชัดเจนของนโยบายมากขึ้นในต้นปี 65 ขณะที่ค่าเงินบาทต้องยอมรับว่า ไม่ว่าจะอ่อนค่าหรือแข็งค่า ก็จะมีทั้งผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ …จบมั้ย

ก่อนหน้านี้ สหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลราคาน้ำมันดีเซล ที่ราคา 25 บาทต่อลิตร และหากไม่ได้ตามความต้องการก็มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาค่าขนส่งในอัตรา 10% หรือมากกว่าเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ลดภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและลดการขาดทุนของผู้ประกอบการ เพื่อให้อยู่รอดในสภาวการณ์วิกฤติต่างๆ ในปัจจุบัน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคบ้าง โดยจะมีผลตั้งแต่ 1 ธ.ค.2564 เป็นต้นไป ...ต้องรอดูกันไปว่า “รัฐบาล” จะยอมตามข้อเรียกร้องหรือไม่ แต่ “ลุงตู่” ไม่ยอมรับกับการ “กดดัน” อยู่แล้ว ดังนั้น เชื่อว่าข้อเรียกร้องของกลุ่มรถบรรทุก คง “กินแห้ว” ตามเคย