เมื่อเพลงบ้านเกิดเมืองนอน ทำม็อบสามกีบ-คนชังชาติคลั่ง

13 ต.ค. 2564 | 13:20 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ต.ค. 2564 | 20:54 น.
6.5 k

คอลัมน์ข้าพระบาท ทาสประชาชน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3722 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 14-16 ต.ค.2564 โดย...ประพันธุ์ คูณมี

สัปดาห์ที่แล้ว ผมได้เขียนเรื่องเพลง "ดุจดั่งสายฟ้า" อันเป็นเพลงเฉลิมพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 10 ที่ขับร้องโดย คุณตูน บอดี้สแลม หรือ อาทิวราห์ คงมาลัย ประพันธ์คำร้องและทำนองโดย คุณพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ที่ถูกพวกสามกีบและขบวนการล้มเจ้า ต่อต้านสถาบันออกมาป่วน เพราะพวกเขาทนฟังความจริงในแผ่นดินตนเองไม่ได้ 
 

หลังจากนั้นในเวลาไล่เรี่ยกัน ก็ได้เกิดปรากฏการณ์ของอีกเพลงหนึ่งคือเพลง "บ้านเกิดเมืองนอน" ออกมาเปิดตัวเผยแพร่ในรูปแบบ EP.1 ROCK Full Version ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม 2564 พอดิบพอดี ซึ่งเพลงบ้านเกิดเมืองนอน ในเวอร์ชั่นใหม่สไตล์ร็อคนี้ ขับร้องโดย แมว จีระศักดิ์, อี๊ด ฟลาย, อู๋ ธรรพ์ณธร , สน เดอะสตาร์, ตุ้ย เกียรติกมล, ตี๋ วิวิศน์ ที่ร่วมกันร้องและถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงร็อคปลุกพลังรักชาติ รักแผ่นดินและบ้านเกิดเมืองนอนของตน 
 

เมื่อเพลงนี้ได้ถูกเปิดตัวเผยแพร่ออกไปทั่วในโซเชียลสู่ผู้ฟัง ก่อให้เกิดกระแสชื่นชมเป็นจำนวนมาก ทำให้คนไทยที่รักชาติต่างช่วยกันแชร์ต่อไปยังเพื่อนๆ และคนฟังล้วนภาคภูมิใจ ปลื้มใจในความเป็นไทย ต่างซาบซึ้งกับรากเหง้าความเป็นมาของประเทศตน แต่กลับมีคนส่วนน้อยแค่หยิบมือเดียวจำนวนหนึ่ง ออกอาการดิ้นรน ทุรนทุรายทนฟังเพลงนี้ไม่ได้ อาการแทบคลั่งจะเป็นจะตายให้ได้

 

อันที่จริงเพลงบ้านเกิดเมืองนอนนี้ มิใช่เพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด เป็นเพลงเก่าของวงสุนทราภรณ์ ประพันธ์ทำนองโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน และคำร้องโดย ครูแก้ว อัจฉริยะกุล สองบรมครูเพลงที่ยิ่งใหญ่ เป็นเพลงจังหวะฟร็อกทร็อต ซึ่งชนะการประกวดเพลงปลุกใจเมื่อปี 2488 ยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และต่อเนื่องมาถึง นายควง อภัยวงศ์ ซึ่งก็ล้วนเป็นพวกคณะราษฎร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นเพลงที่แต่งมาก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 และก่อนม็อบสามกีบเกิดลืมตาดูโลกเสียอีก เนื้อหาของเพลงก็ดีมาก จึงขออนุญาตคัดมาลงให้อ่านและช่วยพิจารณาว่า ทำไมจึงมีคนคลั่งและทนฟังเพลงนี้ไม่ได้ เนื้อเพลงมีดังนี้
 

“บ้านเมืองเรารุ่งเรืองพร้อมอยู่ หมู่เหล่า พวกเราล้วนพงศ์เผ่าศิวิไลย์

เพราะฉนั้นชวนกันยินดี เปรมปรีดิ์ดีใจเรียกตนว่าไทย แดนดินผืนใหญ่มิใช่ทาสเขา ก่อนนี้มีเขตแดนนับว่ากว้างใหญ่ ได้ไว้พลีเลือดเนื้อแลกเอา
รบ รบ รบ ไม่หวั่นใคร มอบความเป็นไทยให้พวกเรา แต่ครั้งนานกาลเก่า
ชาติเราเขาเรียกชาติไทย
บ้านเมืองควรประเทืองไว้ดั่งแต่ก่อน แน่นอนเนื้อและเลือดพลีไป เพราะฉะนั้นเราควรยินดี มีความภูมิใจ แดนดินถิ่นไทยรวบรวมไว้ได้แสนจะยากเข็ญ ยากแค้นเคยกู้แดนไว้อย่างบากบั่น ก่อนนั้นเคยแตกฉานซ่านเซ็น แม้กระนั้นยังร่วมใจ ช่วยกันรวมไทยให้ร่มเย็น บัดนี้ไทยดีเด่นร่มเย็นสมสุขเรื่อยมา
อยู่กินบนแผ่นดินท้องถิ่นกว้างใหญ่ ชาติไทยนั้นเคยใหญ่ในบูรพา 
ทุก ทุกเช้าเราดูธงไทยใจจงปรีดา ว่าไทยอยู่มาด้วยความผาสุกถาวรสดใส บัดนี้ไทยเจริญวิสุทธิ์ผุดผ่อง พี่น้องจงแซ่ซ้องชาติไทย รักษาไว้ให้มั่นคง เทิดธงไตรรงค์ให้เด่นไกล ชาติเชื้อเรายิ่งใหญ่ ชาติไทยบ้านเกิดเมืองนอน"
 

นี่คือเนื้อเพลงเก่าที่ยังคงความเป็นอมตะ บัดนี้ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในเวอร์ชั่นใหม่จาก 4 โปรดิวเซอร์คือ คุณดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค ในเวอร์ชั่น PIANO, ครูเต๋า ภราดร ในเวอร์ชั่น POP JAZZ, สวัสดีชัย ในเวอร์ชั่น POP และ เพชร มาร์ ในเวอร์ชั่น ROCK และ 18 ศิลปินช่วยกันขับร้อง ที่คนไทยต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง กับผลงานที่ทำให้คนไทยรักกัน
 

เมื่อคนไทยส่วนใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน ได้ฟังเพลงนี้ ล้วนมีความรู้สึกรักประเทศไทย รักในความเป็นชาติไทย และมีความสามัคคีกัน ภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ที่บรรพบุรุษได้รักษาปกป้องแผ่นดินไทย ให้อยู่รอดมาได้ด้วยความเป็นประเทศเอกราช นับถึงปัจจุบันก็เป็นเวลาเกือบ 800 ปี ที่ประเทศไทยเป็นชาติที่มีเอกลักษณ์ มีวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์ของตนเอง ก็ด้วยความเสียสละเลือดเนื้อของบรรพบุรุษไทย 
 

แผ่นดินไทยจึงได้ตกทอดมายังลูกหลานไทยในปัจจุบัน ใครก็ตามที่ได้ชื่อว่าเป็นคนไทย ย่อมต้องรักชาติ รักประเทศไทย เว้นเสียแต่ว่า พวกที่มีแต่ชื่อเป็นคนไทยแต่จิตใจเป็นทาสเท่านั้น ที่จะคลั่งและไม่อาจฟังเพลงนี้ด้วยความภาคภูมิใจ แถมออกอาการเห่าหอนตำหนิคนที่ร้องและนำเพลงนี้มาปรับปรุงใหม่ โดยปราศจากเหตุผล
 

บ้านเกิดเมืองนอนของเราในยามนี้ เราจะได้เห็นคนไทยจำพวกหนึ่งที่ชอบอ้าง ชอบประกาศตนว่าเป็นคนรักชาติ รักประเทศรักประชาธิปไตย มีเพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่คิดถึงอนาคตของบ้านเมือง คนอื่นๆ คงไม่รู้จักคิด พวกเขามักสมอ้างว่าอนาคตประเทศเป็นของตนคนรุ่นใหม่เท่านั้น ไม่เห็นหัวคนไทยส่วนใหญ่ในแผ่นดินคนอื่นๆ ทั้งที่โดยความเป็นจริงประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน พวกเขาต่างออกมาแสดงความคิดประณามหยามเหยียดประเทศตน ตำหนิและด่าทุกเรื่องในความเป็นชาติตน ประเทศไทยแทบไม่มีอะไรดีเลยแม้แต่เรื่องเดียว คนจำพวกนี้มักมีพฤติกรรมรังเกียจ ชังชาติตน 
 

ขณะเดียวกันก็มักจะยกย่องชาติอื่น ว่าดีกว่าประเทศชาติบ้านเมืองตน กระทั่งอยากหนีไปอยู่ประเทศอื่น แต่พวกเขาก็ไม่ยอมไปให้พ้นๆประเทศเสียที คนจำพวกนี้ไม่ใช่อนาคตของชาติแต่อย่างใด และคนไทยทั้งประเทศไม่อาจฝากอนาคตของบ้านเมืองไว้ในมือพวกเขาได้เลย ขนาดที่พวกเขายังไม่มีอำนาจรัฐ ไม่ได้อำนาจการปกครอง ก็ยังกร่างและสามหาว อวดดีอวดเก่งถึงเพียงนี้ หากมีอำนาจรัฐในมือยิ่งจะเลวร้ายเพียงใด ใครที่มีความคิดเห็นต่างจากพวกเขา คงไม่เพียงถูกบุลลี่หรือรุมถล่มทัวร์ลง ประชาชนผู้มีความคิดเห็นต่างคงถูกจับมาประจานทำร้ายไม่ต่างจากพวกเรดการ์ด สมัยการปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน 
 

การที่พวกเขาหยามเหยียดคนในชาติตนได้ถึงเพียงนี้ ได้ยินเพลงปลุกใจให้รักชาติ รักแผ่นดินก็ทนฟังไม่ได้เสียแล้ว จนออกอาการคลั่งดิ้นรนจะเป็นจะตายเหมือนถูกน้ำร้อนลวก ไม่รู้จงเกลียดจงชังบ้านเมืองของตนด้วยเหตุใด คนจำพวกนี้จึงควรใสหัวไปจากแผ่นดินเถอะ อย่าอยู่ให้หนักแผ่นดินไทยเลยครับ เพราะถ้าคุณฟังเพลงรักชาติไทยไม่ได้ ฟังเพลงบ้านเกิดเมืองนอนก็ไม่ได้ ฟังเพลงเฉลิมพระเกียรติบูรพกษัตริย์ไทยก็ไม่ได้ ก็ไม่ควรเรียกตนเองว่า "คนไทย" อีกต่อไป อย่าอยู่ให้หนักแผ่นดินไทยเลย