สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางพุ่งสูงขึ้นอย่างกะทันหัน หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่ง เปิดฉากโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ ต่อกลุ่มฮูตีในเยเมนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ที่กลุ่มติดอาวุธนี้โจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าระดับโลก
การโจมตีดังกล่าวคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 31 ราย และบาดเจ็บอีก 101 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ตามการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮูตี ขณะที่ผู้นำกลุ่มออกมาประณามว่านี่เป็น “อาชญากรรมสงคราม” และประกาศพร้อม “ตอบโต้ด้วยการยกระดับความรุนแรง”
การโจมตีนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการทางทหารที่อาจลากยาวเป็น “หลายสัปดาห์” ตามที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ส โดยถือเป็น ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง
ทรัมป์ยังส่งคำเตือนตรงถึง อิหร่าน ซึ่งเป็นผู้หนุนหลังหลักของกลุ่มฮูตี โดยระบุว่า
ถ้าอิหร่านคุกคามสหรัฐฯ เราจะเอาผิดพวกเขาอย่างเต็มที่ และเราไม่ใจดีแน่นอน!
ด้าน พลเอกฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านออกมาตอบโต้ว่า
ฮูตีเป็นอิสระและตัดสินใจเอง… และเราขอเตือนศัตรูของเราว่า หากคุณแตะต้องอิหร่าน เราจะตอบโต้กลับอย่างเด็ดขาดและรุนแรง!
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน อับบาส อารักชี ก็ออกมาประณามการโจมตีของสหรัฐฯ โดยระบุว่า
สหรัฐฯ ไม่มีสิทธิและอำนาจใดๆ ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของอิหร่าน หยุดสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการก่อการร้ายของอิสราเอล แล้วหยุดฆ่าประชาชนเยเมนเสียที!
การตอบโต้ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ปฏิบัติการทางทหารเท่านั้น แต่ทรัมป์ยังใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือปลุกเร้า โดยโพสต์ข้อความลง Truth Social ว่า
ถึงผู้ก่อการร้ายฮูตี… เวลาของพวกแกหมดแล้ว! และการโจมตีต้องจบลง ณ บัดนี้ ถ้าไม่ นรกจะถล่มลงมาใส่พวกแกอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน!
ขณะที่เพนตากอนระบุว่า กลุ่มฮูตีโจมตีเรือพาณิชย์ไปแล้วถึง 145 ครั้ง และเรือรบสหรัฐฯ 174 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2023โดยกลุ่มอ้างว่าเป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนปาเลสไตน์จากสงครามอิสราเอล-ฮามาส
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่าปฏิบัติการโจมตีล่าสุด ใช้เครื่องบินรบจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman ที่ประจำการในทะเลแดง พร้อมย้ำว่า
การโจมตีเรือและเครื่องบินของอเมริกา รวมถึงกองกำลังของเรา จะไม่ได้รับการยอมรับ!
แม้ว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าถล่มกลุ่มฮูตีอย่างหนัก แต่ดูเหมือนกลุ่มติดอาวุธนี้จะ “ไม่ถอยง่ายๆ” โดยประกาศผ่านแถลงการณ์ว่า
“กองกำลังเยเมนของเราพร้อมตอบโต้ทุกการยกระดับของศัตรู”
ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ฮูตีประกาศว่าจะกลับมา โจมตีเรือสินค้าของอิสราเอล ในทะเลแดงและอ่าวเอเดนอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยชะลอการโจมตีในช่วงที่มีข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอล-ฮามาส
แม้ปฏิบัติการของสหรัฐฯ จะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มฮูตีโดยตรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามี “แรงสั่นสะเทือน” ไปถึงอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มติดอาวุธนี้ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อสมดุลอำนาจในภูมิภาค
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยส่งจดหมายถึง อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน หวังเปิดโต๊ะเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ แต่ถูกปฏิเสธทันที ขณะเดียวกัน อิหร่านก็เดินหน้าสะสมยูเรเนียมบริสุทธิ์ถึง 60% ซึ่งเข้าใกล้ระดับ 90% ที่ใช้ทำอาวุธนิวเคลียร์ ตามการเตือนของ IAEA
ขณะที่รัสเซียซึ่งพึ่งพาอาวุธจากอิหร่านในสงครามยูเครน ก็ได้รับแจ้งล่วงหน้าจากสหรัฐฯ ว่าจะมีการโจมตีในเยเมน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเมืองโลกกำลังเดินหน้าเข้าสู่จุดที่ซับซ้อนมากขึ้น