Getty Images และ Shutterstock ซึ่งเป็นผู้ให้บริการภาพสต็อกที่เป็นคู่แข่งกัน ได้บรรลุข้อตกลงการควบรวมกิจการอย่างเป็นทางการ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีมูลค่ารวมประมาณ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ รวมหนี้สินด้วย
Getty Images ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองซีแอตเทิล เสนอที่จะจ่ายเป็นเงินสดประมาณ 28.85 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13.67 หุ้นของ Getty Images ต่อหุ้นของ Shutterstock หนึ่งหุ้น ตามแถลงการณ์ ซึ่งยืนยันรายงานก่อนหน้านี้ของ Bloomberg News ผู้ถือหุ้นของ Shutterstock ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนิวยอร์ก อาจเลือกที่จะรับเงินเป็นเงินสดและหุ้นของ Getty ก็ได้
ธุรกรรมนี้ คาดว่า Getty Images จะจ่ายเงินสด 331 ล้านดอลลาร์และหุ้นของตัวเอง 319.4 ล้านหุ้น เมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้น ผู้ถือหุ้นของ Getty Images จะเป็นเจ้าของประมาณ 54.7% ในบริษัทที่รวมเข้าด้วยกัน
ขณะที่ผู้ถือหุ้นของ Shutterstock จะเป็นเจ้าของส่วนที่เหลือ Craig Peters ซึ่งเป็นซีอีโอของ Getty Images จะดำรงตำแหน่งเดียวกันในบริษัทที่รวมเข้าด้วยกัน
ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการรวมตัวของผู้ให้บริการเนื้อหาภาพที่มีลิขสิทธิรายใหญ่ที่สุดสองรายในสหรัฐเข้าด้วยกัน เนื่องจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้ตลาดการสร้างเนื้อหาภาพพลิกผัน และกล้องโทรศัพท์มือถือทำให้มูลค่าของภาพสต็อกลดลง
ข้อตกลงดังกล่าวจะผสานคลังภาพถ่าย ภาพประกอบ และวิดีโอจำนวนมหาศาลของ Getty Images เข้ากับแพลตฟอร์มค้นหาขนาดใหญ่ของ Shutterstock ที่ให้ผู้มีส่วนสนับสนุนสามารถอัปโหลดเนื้อหาของตนได้
เมื่อปิดตลาดในวันจันทร์ที่ผ่านมา Getty Images ซึ่งมีหนี้อยู่ราว 1.4 พันล้านดอลลาร์ ได้สูญเสียมูลค่าตลาดไปประมาณ 73% นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2022 ผ่านข้อตกลงเช็คเปล่า Shutterstock ร่วงลงประมาณ 50%
ช่วงเวลาเดียวกัน หลังจากการประกาศเมื่อวันอังคาร Shutterstock พุ่งขึ้นถึง 44% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด ขณะที่ Getty พุ่งขึ้นถึง 100%
บริษัทต่างๆ คาดหวังว่าการร่วมมือกันจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรได้ โดยนำเสนอบริการที่หลากหลายมากขึ้นให้กับอุตสาหกรรมสื่อ โฆษณา และการสร้างเนื้อหา
การควบรวมครั้งนี้จะเป็นการทดสอบเบื้องต้นว่าผู้กำกับดูแลการต่อต้านการผูกขาดที่เข้ามาใหม่ของรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ จะยอมรับการควบรวมกิจการระหว่างผู้เล่นชั้นนำในอุตสาหกรรมที่มีความเข้มข้นค่อนข้างมากเพียงใด หลังจากที่รัฐบาลไบเดนได้ปิดกั้นข้อตกลงในอุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตและสายการบิน แม้ว่าธุรกรรมนี้มีแนวโน้มที่จะได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่ก็เน้นย้ำว่าผู้ทำข้อตกลงมีความหวังว่าหน่วยงานกำกับดูแลจะมีมาตรการผ่อนปรนมากขึ้น
Getty Images Shutterstock ฝันร้ายสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์หรือไม่
ช่างภาพที่ให้สัมภาษณ์กับ Artnet News แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการควบรวมกิจการครั้งนี้ ส่วนใหญ่ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การควบรวมกิจการใดๆ ก็ตามย่อมหมายถึงช่างภาพจะต้องประสบปัญหา การควบรวมกิจการครั้งนี้ถือเป็นการผูกขาด โดย Getty มุ่งมั่นที่จะผูกขาดตลาดภาพมาโดยตลอด
ช่างภาพอิสระ มีรายได้พอประทังชีวิตด้วยการให้ลิขสิทธิ์ผลงานที่น่าภาคภูมิใจของตน แต่บ่อยครั้งที่ได้ยินช่างภาพบ่นว่าได้เงินเพียงเล็กน้อย จากผลงานของตนเอง ช่างภาพบางคนถึงกับเสี่ยงชีวิตเพื่อบันทึกผลงานเหล่านี้
แองกัส มอร์แดนท์ ช่างภาพข่าว ซึ่งผลงานถูกตีพิมพ์ในนิวยอร์กไทมส์และวอลล์สตรีทเจอร์นัล กล่าวว่า เขาหวั่นเกรงว่าการควบรวมกิจการจะสร้างการผูกขาดที่ส่งผลเสียต่อช่างภาพเท่านั้น
ทั้ง Getty และ Shutterstock ต่างก็มีชื่อเสียงในการเป็นผู้นำในการแข่งขันเพื่อให้ราคาตกต่ำที่สุด
ก่อนหน้านี้ Getty ตกเป็นเป้าโจมตีเรื่องค่าตอบแทนที่ต่ำสำหรับช่างภาพทั้งในส่วนของอัตราค่าจ้างรายวันและค่าลิขสิทธิ ในปี 2019 Getty ประกาศใช้ระบบการออกใบอนุญาตแบบปลอดค่าลิขสิทธิ์แทนการออกใบอนุญาตแบบมีการจัดการสิทธิ์สำหรับภาพสต็อกสร้างสรรค์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้ค่าตอบแทนของช่างภาพลดลงในที่สุด
การควบรวมกิจการ Getty Images Shutterstock ผลกระทบต่อผู้บริโภค
การควบรวมกิจการระหว่าง Getty Images และ Shutterstock ในมุมมองของผู้บริโภค ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจมีทั้งด้านบวกและด้านลบ
ผลกระทบเชิงบวก
การเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลายและคุณภาพสูงขึ้น การรวมคลังเนื้อหาของทั้งสองบริษัททำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงภาพและวิดีโอที่มีจำนวนมากขึ้นและมีความหลากหลายสูงขึ้น จากข้อมูลพบว่า บริษัทจะมีคอนเทนต์ที่ครอบคลุมทั้งในเชิงพาณิชย์และเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้งานในหลายกลุ่มเป้าหมาย เช่น นักการตลาด ผู้สร้างเนื้อหา และนักออกแบบมืออาชีพ
การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น ด้วยทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นจากการควบรวม บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน เช่น การค้นหารูปภาพที่แม่นยำยิ่งขึ้น การสร้างภาพหรือวิดีโอด้วยข้อความ และการปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้
ผลกระทบเชิงลบ
การแข่งขันในตลาดลดลง การควบรวมกิจการของสองผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมอาจทำให้การแข่งขันลดลง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่จำกัดมากขึ้น และอาจเผชิญกับราคาที่สูงขึ้นสำหรับการเข้าถึงเนื้อหาภาพและวิดีโอ
การลดจำนวนผู้เล่นในตลาดส่งผลต่อการแข่งขัน ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่เคยเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยีและสื่อดิจิทัล การควบรวมบริษัทใหญ่ ๆ มักส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการ รวมถึงการลดความหลากหลายของตัวเลือกในตลาด
ความหลากหลายของเนื้อหาอาจลดลง แม้ว่าการรวมตัวจะเพิ่มจำนวนคอนเทนต์ แต่การควบคุมโดยบริษัทเดียวอาจส่งผลต่อมุมมองหรือสไตล์ของเนื้อหา ทำให้ความหลากหลายในด้านความคิดสร้างสรรค์ลดลง และอาจไม่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการเนื้อหาเฉพาะเจาะจง
ความกังวลเกี่ยวกับการผูกขาด ในระยะยาว การรวมกิจการอาจนำไปสู่การผูกขาดในอุตสาหกรรม ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคต้องพึ่งพาบริษัทเดียวในการเข้าถึงเนื้อหา และลดโอกาสในการเลือกแพลตฟอร์มอื่น
การควบรวมระหว่าง Getty Images และ Shutterstock เป็นการปรับตัวที่น่าสนใจในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมภาพและวิดีโอ การรวมตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัท แต่ยังอาจส่งผลต่อวิธีการบริโภคเนื้อหาของผู้ใช้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อผู้บริโภคยังคงต้องติดตามดูว่า บริษัทใหม่จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีและการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างไร