9 ธ.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่า นายยุน ซอก ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ หลังจากความพยายามที่ล้มเหลวในการประกาศกฎอัยการศึก ท่ามกลางเสียงเรียกร้องที่เพิ่มขึ้นให้ลาออกจากตำแหน่งและวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ลุกลาม
ประธานาธิบดียุนได้กล่าวขอโทษต่อความพยายามที่ล้มเหลวดังกล่าว และระบุว่าจะปล่อยให้ชะตากรรมทางการเมืองและกฎหมายของเขาขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชาชน (PPP) ที่เป็นพรรครัฐบาล แต่ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่าเขากำลังตกเป็นเป้าหมายของการสอบสวนทางอาญา
กระทรวงกลาโหมระบุว่า ยุนยังคงเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดตามกฎหมาย แต่ความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่นายทหารระดับสูงต่อประธานาธิบดีได้ทำให้เกิดคำถามต่ออำนาจการควบคุมของเขา
ยุนได้ให้อำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่ทหารเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม เพื่อกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า "กองกำลังต่อต้านรัฐ" และฝ่ายค้านทางการเมืองที่ขัดขวาง แต่เขาได้ยกเลิกคำสั่งหลังจากนั้น 6 ชั่วโมง หลังจากรัฐสภาลงมติคัดค้านการประกาศกฎอัยการศึก
ท่ามกลางกระแสต่อต้าน เจ้าหน้าที่ทหารหลายนาย รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหมรักษาการ ได้ระบุว่าพวกเขาจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใหม่ใดๆ ในการประกาศกฎอัยการศึกอีก
พรรคประชาธิปไตย (DP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักได้เรียกร้องให้ถอดถอนอำนาจของยุนเหนือกองทัพ และยังเรียกร้องให้จับกุมยุนและเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องกับความวุ่นวายในครั้งนี้
วิกฤตการณ์ในกรุงโซลเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค โดยมีรายงานว่าเกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียในสงครามต่อต้านยูเครน ท่ามกลางความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างมอสโกและเปียงยาง
สหรัฐฯ ซึ่งมีทหารประจำการในเกาหลีใต้ 28,500 นาย ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ โดยรัฐมนตรีกลาโหมลอยด์ ออสตินได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปเกาหลีใต้ และรัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเคนได้โทรศัพท์หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ โดยระบุว่าเขาคาดหวังให้กระบวนการประชาธิปไตยดำเนินต่อไป