จับตา NATO ใช้บทบัญญัติมาตรา 5 หลังรัสเซียมุ่งเป้าตะวันตก
จับตามการใช้มาตรา 5 ของ NATO ข้อตกลงสำคัญที่ถือเป็นหัวใจของพันธมิตร ซึ่งระบุว่าการโจมตีประเทศสมาชิกหนึ่งเท่ากับเป็นการโจมตีทุกประเทศ
การกระทำก่อวินาศกรรมของรัสเซียต่อเป้าหมายตะวันตก อาจส่งผลให้ในที่สุดนาโต NATO ต้องพิจารณาใช้มาตรา 5 ซึ่งเป็นมาตราการป้องกันร่วมกันของพันธมิตร หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของเยอรมนีเตือน
บรูโน คาห์ล หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ (Bundesnachrichtendienst หรือ BND) ของเยอรมนี กล่าวในงานประชุมของสถาบันวิจัยสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งเยอรมนี (DGAP) ที่กรุงเบอร์ลิน โดยคาดว่ารัสเซียจะยกระดับการทำสงครามแบบผสมผสานต่อไปอีก
การใช้มาตรการในรูปแบบสงครามไฮบริดอย่างแพร่หลายของรัสเซียทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่นาโตจะพิจารณาใช้มาตรการป้องกันร่วมกันตามมาตรา 5 ในที่สุด ในเวลาเดียวกันการที่รัสเซียเพิ่มศักยภาพทางทหารมากขึ้น หมายความว่า การเผชิญหน้าทางทหารโดยตรงกับนาโตกลายเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้
ภายใต้บทความที่ 5 ของนาโต NATO
Article 5 หรือ มาตรา 5 ของ NATO เพราะเป็นมาตราที่เสี่ยงนำไปสู่สถานการณ์ที่รุนแรงได้ค่อนข้างสูง
โดยบัญญัติไว้ว่า การโจมตีสมาชิกประเทศใดประเทศหนึ่งของชาติสมาชิก NATO จะเท่ากับเป็นการโจมตีสมาชิกทุกประเทศ
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนน่าวิตกไปมากกว่าเดิม หากสมาชิกนาโตถูกโจมตีสมาชิกอื่น ๆ พันธมิตรจะต้องช่วยให้ตอบสนอง หน่วยข่าวกรองของนาโตและชาติตะวันตกออกมาเตือนว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังกิจกรรมที่เป็นปฏิปักษ์กันมากขึ้น ทั่วบริเวณยูโร-แอตแลนติก ตั้งแต่การโจมตีทางไซเบอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปจนถึงการวางเพลิงที่เชื่อมโยงกับกรุงมอสโกซึ่งรัสเซียปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เอกอัครราชทูตได้พบกันที่สภานาโต้-ยูเครน (NUC) เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในยูเครน หลังจากที่รัสเซียทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง (IRBM) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของยูเครนได้บรรยายสรุปต่อสภาผ่านลิงค์วิดีโอ
ระหว่างการประชุม พันธมิตรนาโตได้ยืนยันอีกครั้งว่าสนับสนุนยูเครน การโจมตีที่เมืองดนิโปรครั้งนี้ถือเป็นความพยายามอีกครั้งของรัสเซียที่จะสร้างความหวาดกลัวแก่พลเรือนในยูเครนและข่มขู่ผู้ที่สนับสนุนยูเครนในขณะที่รัสเซียปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซียที่ผิดกฎหมายและไม่ได้รับการยั่วยุ
ฟาราห์ ดัคลัลเลาะห์ โฆษกนาโตได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า การใช้ขีดความสามารถนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางของความขัดแย้งหรือทำให้พันธมิตรนาโตไม่กล้าสนับสนุนยูเครน
สภานาโต้-ยูเครน เป็นเวทีหารือระหว่างพันธมิตรและยูเครนในประเด็นความมั่นคงที่ทั้งสองฝ่ายมีความกังวลร่วมกัน ซึ่งรวมถึงสงครามรุกรานของรัสเซียด้วย การประชุมครั้งนี้มีบอริส รูเก รักษาการรองเลขาธิการนาโต้ เป็นประธาน การประชุมครั้งต่อไปของสภานาโต้-ยูเครน จะมีขึ้นในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต้ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-4 ธันวาคม
ปัจจุบัน NATO มีประเทศสมาชิก 32 ประเทศ ประเทศเหล่านี้เรียกว่าพันธมิตรซึ่งเป็นรัฐที่มีอำนาจอธิปไตยร่วมกันผ่าน NATO เพื่อหารือประเด็นทางการเมืองและความมั่นคง และตัดสินใจร่วมกันโดยฉันทามติ