เจาะนโยบาย “กมลา แฮร์ริส” ศึกเลือกตั้งสหรัฐ 2024 กับแนวทางใหม่เพื่ออเมริกา

06 พ.ย. 2567 | 11:30 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ย. 2567 | 11:39 น.

ส่องนโยบายของ “กมลา แฮร์ริส” ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ตั้งแต่เทคโนโลยี จีน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงเศรษฐกิจ กับความหวังสร้างการเปลี่ยนแปลงและรับมือกับคู่แข่งอย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์”

ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 ที่กำลังเข้มข้น "กมลา แฮร์ริส" รองประธานาธิบดีและหนึ่งในผู้ท้าชิงคนสำคัญจากพรรคเดโมแครตกำลังมุ่งเป้าหมายในการสร้างการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิทางสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งนโยบายเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่แฮร์ริสและพรรคเชื่อว่าจะช่วยยกระดับสังคมอเมริกันในระยะยาว

กมลา แฮร์ริส แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการพัฒนานโยบายในหลายๆ ด้านเพื่อมุ่งสร้างสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและทันสมัย รวมถึงเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI)

กมลา แฮร์ริส สนับสนุนให้ภาคเทคโนโลยีของสหรัฐฯ พัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมทั้งกำหนดกรอบการใช้ AI อย่างปลอดภัย และเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ แฮร์ริสยังเข้าร่วมในการประชุมระดับโลกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี AI ที่เป็นมิตรต่อมนุษย์และมีความรับผิดชอบ

 

ความสัมพันธ์กับจีน

แฮร์ริสมองว่าจีนเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยเสนอให้สหรัฐฯ ลดการพึ่งพาจีนแต่ไม่แยกตัวออกมาอย่างสิ้นเชิง พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพความสัมพันธ์ในทะเลจีนใต้และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในเอเชียเพื่อสกัดกั้นอิทธิพลของจีน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

กมลา แฮร์ริส มองว่าภาวะโลกร้อนเป็นภัยคุกคามที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน เธอให้การสนับสนุนกฎหมายลดภาวะเงินเฟ้อ (IRA) ที่ลงทุนในพลังงานสะอาดและโครงการสร้างงานด้านพลังงานสะอาดผ่าน American Climate Corps นอกจากนี้ แฮร์ริสยังประกาศเงินช่วยเหลือ 3 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนประเทศที่กำลังพัฒนาในการรับมือกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ

 

ความมั่นคงและพันธมิตร NATO

แฮร์ริสให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศและความมั่นคงของ NATO โดยสนับสนุนการขยายสมาชิกภาพของ NATO และเน้นให้สหรัฐฯ มีพลังทางทหารที่แข็งแกร่งเสมอ และยังผลักดันการร่วมมือด้านความมั่นคงในเอเชีย-แปซิฟิกเพื่อรับมือกับจีนในภูมิภาค

 

เศรษฐกิจและการลดความเหลื่อมล้ำ

นโยบายของแฮร์ริสให้ความสำคัญกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการสร้างชนชั้นกลาง โดยสนับสนุนการขึ้นภาษีผู้มีรายได้สูงและบริษัทขนาดใหญ่ นอกจากนี้ แฮร์ริสยังเสนอการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและการลดภาษีสำหรับพนักงานที่ได้รับทิป พร้อมทั้งมีแผนจัดสรรเงินช่วยเหลือสำหรับครอบครัวที่มีทารกเกิดใหม่

 

สาธารณสุขและการป้องกันโรคระบาด

แฮร์ริสสนับสนุนการรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 และมุ่งเน้นการป้องกันโรคในอนาคตผ่านการจัดตั้งสำนักงานเพื่อประสานงานการเตรียมความพร้อมรับมือภัยโรคระบาด นอกจากนี้ แฮร์ริสยังเน้นย้ำความสำคัญของสิทธิในการทำแท้งและสนับสนุนการออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิสตรีในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล

 

การปฏิรูปการตรวจคนเข้าเมือง

แฮร์ริสชูแผนปฏิรูปนโยบายการตรวจคนเข้าเมืองที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม โดยเน้นการจัดการปัญหาผู้อพยพที่มาจากภูมิภาคอเมริกากลาง และเสนอแผนการให้ที่อยู่อาศัยแก่ผู้ลี้ภัยในอเมริกาเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าเมืองผิดกฎหมายอย่างยั่งยืน

 

การสนับสนุนยูเครนและปัญหารัสเซีย

แฮร์ริสยืนยันการสนับสนุนยูเครนในกรณีการรุกรานของรัสเซีย โดยให้ความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการป้องกันตัวของยูเครน และยังร่วมมือกับพันธมิตรตะวันตกในการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อลดอิทธิพลทางการเงินและการทหารของประเทศนี้

 

การค้าและอุตสาหกรรม

นโยบายด้านการค้าของแฮร์ริสมุ่งเน้นการสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศและป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากการค้า และสนับสนุนกฎหมาย CHIPS and Science Act เพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน

 

นโยบายด้านตะวันออกกลางและความสัมพันธ์กับอิสราเอล

แฮร์ริสนับสนุนสิทธิในการป้องกันตัวของอิสราเอล แต่ก็แสดงความห่วงใยต่อชาวปาเลสไตน์ โดยเรียกร้องให้มีการหยุดยิงและสร้างทางออกสองรัฐเพื่อความสงบสุขในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ยังพยายามผลักดันข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย