มูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ระบุในแถลงการณ์วานนี้ (5 ธ.ค.) ว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ของพันธบัตรรัฐบาลจีน สะท้อนถึงหลักฐานที่เพิ่มขึ้นว่า รัฐบาลจีนจะต้องให้การสนับสนุนด้านการเงินกับรัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทของรัฐที่มี ปัญหาด้านหนี้สิน ซึ่งจะทำให้เกิด ความเสี่ยงต่อความแข็งแกร่งด้านการคลัง เศรษฐกิจ และสถาบันของจีน
"การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มความน่าเชื่อถือยังสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะกลางที่ชะลอลง และการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง" มูดี้ส์ระบุ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มูดี้ส์ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลงเมื่อวันอังคาร (5 ธ.ค.) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่อันดับ A1 ในปี 2560 โดยระบุถึงการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มูดี้ส์ยังคงตรึงอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินหยวนและสกุลเงินต่างประเทศของจีนไว้ที่อันดับ A1 และคาดว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.0% ในปี 2567 และ 2568 และจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 3.8% ตั้งแต่ปี 2569-2573
ด้านเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยว่า จีนรู้สึกผิดหวังกับการที่มูดี้ส์ ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีนลงสู่เชิงลบจากมีเสถียรภาพ เนื่องจากทางจีนเองมองว่าเศรษฐกิจจีนนั้น มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ท่ามกลางแรงผลักดันที่อ่อนแอจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
เจ้าหน้าที่กล่าวเสริมว่า ความกังวลของมูดี้ส์เกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของจีนและความยั่งยืนทางการคลังนั้น “ไม่สมเหตุสมผล”
พร้อมกันนี้ยังระบุว่า ปี 2566 เป็นปีแรกที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 โดยจีนสามารถต้านทานความเสี่ยงและความท้าทายจากต่างประเทศ รวมถึงแรงกดดันขาลงซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายประการในประเทศ จนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้
ขณะเดียวกัน การคาดการณ์ล่าสุดจากสถาบันระหว่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ล้วนแสดงให้เห็นว่า จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ประมาณ 5% ในปีนี้
นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนมีความสามารถในการฟื้นตัวและมีศักยภาพสูง และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งในระยะยาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยจีนจะยังคงเป็นกลไกสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจโลกต่อไปในอนาคต
สำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของจีนรายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลัง ที่กล่าวสรุปว่า ตลาดภายในประเทศที่มีขนาดมหึมาของจีนมีอุปสงค์ที่ดีเยี่ยม ขณะที่สถานการณ์การจ้างงานและราคาโดยทั่วไปก็มีเสถียรภาพ ด้านแรงผลักดันภายในจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จีนเร่งส่งเสริมการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสูงต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง