อัปเดตวิกฤตกาซา ระบบสื่อสารล่ม “ยูเอ็น” ระงับส่งความช่วยเหลือเข้าพื้นที่

19 พ.ย. 2566 | 12:42 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ย. 2566 | 12:53 น.

สหประชาชาติ (ยูเอ็น) หยุดส่งความช่วยเหลือด้านอาหารและปัจจัยจำเป็นเข้าเขตฉนวนกาซาเป็นการชั่วคราว หลังระบบการสื่อสารล่มจากการขาดแคลนพลังงาน ขณะระบบสาธารณสุขล้มเหลวสิ้นเชิง เมื่อไม่มีไฟฟ้าใช้สำหรับผู้ป่วยวิกฤต ระบบระบายอากาศและตู้อบทารกแรกเกิด

 

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถูกบีบให้ต้องหยุดการนำส่งอาหารและปัจจัยช่วยเหลืออื่น ๆ เข้าไปใน เขตฉนวนกาซา ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) หลัง ระบบโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตล่ม เนื่องจาก ไม่มีเชื้อเพลิง เตือนความอดอยากมีแนวโน้มขยายวงกว้าง ขณะการโจมตีของกองทัพอิสราเอลเริ่มขยายพื้นที่ลงกาซาตอนใต้ 

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า อิสราเอลประกาศอนุญาตให้รถน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนสองถังเข้าไปในฉนวนกาซา สำหรับการใช้งานของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และระบบการสื่อสาร ซึ่งเป็นจำนวนเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ยูเอ็นประเมินว่าต้องใช้ในปฏิบัติการช่วยชีวิตประชาชนนับแสนคนในฉนวนกาซา ซึ่งรวมถึงการหล่อเลี้ยงระบบน้ำประปา การทำงานของโรงพยาบาลซึ่งปัจจุบันต้องปิดทำการไปหลายแห่ง รวมถึงการเติมน้ำมันรถขนส่งลำเลียงความช่วยเหลือ

การโจมตีของกองทัพอิสราเอลเริ่มขยายพื้นที่ลงกาซาตอนใต้ 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส อิสราเอลได้ปิดกั้นการขนส่งเชื้อเพลิงด้วยเหตุผลว่ากลุ่มฮามาสอาจจะนำเชื้อเพลิงเหล่านั้นไปใช้ทางการทหาร นอกจากนี้ อิสราเอลยังได้ปิดกั้นการลำเลียงขนส่งอาหาร น้ำ และปัจจัยจำเป็นอื่น ๆ โดยอนุญาตให้การช่วยเหลือเข้าได้เพียงน้อยนิดจากฝั่งชายแดนกาซา-อียิปต์ (ด่านราฟาห์) ซึ่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระบุว่า มีปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการ

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า การดำรงชีวิตในเขตกาซาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากปริมาณอาหารที่นำส่งเข้าพื้นที่ คิดเป็นสัดส่วนได้เพียง 10% ของปริมาณที่ต้องการต่อวัน ขณะที่ระบบน้ำประปาที่ไม่ทำงานส่งผลให้ประชากรราว 70% ต้องดื่มน้ำกร่อยหรือน้ำสกปรก ทำให้เกิดโรคระบาดที่ติดต่อผ่านน้ำตามมา

การดำรงชีวิตในเขตกาซาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากปริมาณอาหารที่นำส่งเข้าพื้นที่ คิดเป็นสัดส่วนได้เพียง 10% ของปริมาณที่ต้องการต่อวัน

กระทั่งวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่สองที่ระบบการสื่อสารไม่สามารถใช้งานได้ หมายความว่าประชาชนในเขตฉนวนกาซาราว 2,300,000 คนแทบจะติดต่อสื่อสารกันเองและสื่อสารกับโลกภายนอกไม่ได้เลย

จูเลียต โทวมา โฆษกสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ (UNRWA) ระบุว่า ตราบใดที่ระบบการสื่อสารยังคงไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถนำขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปในเขตฉนวนกาซา

เมื่อเร็วๆนี้ กองทัพอิสราเอลได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะขยายวงของการโจมตีไปยังกาซาตอนใต้ ขณะที่การโจมตีพื้นที่ทางตอนเหนือของเขตกาซา กองทัพอิสราเอลกำลังเน้นปฏิบัติการค้นหากองบัญชาการของกลุ่มฮามาสในพื้นที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่ฉนวนกาซา โดยทหารอิสราเอลอ้างว่าที่นี่คือจุดที่มีศูนย์บัญชาการของกลุ่มติดอาวุธฮามาสแอบซ่อนอยู่ใต้ดิน

สงครามครั้งนี้ คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ในเขตกาซาไปแล้วมากกว่า 11,400 คน โดย 2 ใน 3 ของจำนวนนี้ เป็นเด็กและผู้หญิง

นับตั้งแต่ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลแบบไม่คาดฝันมาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสดำเนินเข้าสู่สัปดาห์ที่หกแล้ว ฝ่ายปาเลสไตน์ระบุว่า สงครามครั้งนี้ คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ในเขตกาซาไปแล้วมากกว่า 11,400 คน โดย 2 ใน 3 ของจำนวนนี้ เป็นเด็กและผู้หญิง นอกจากนี้ ยังมีคนสูญหายที่เชื่อว่าอาจจะติดอยู่ตามซากอาคารอีกราว 2,400 คน

รายงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ระบุว่า จำนวนนับดังกล่าวไม่ได้แยกว่าใครเป็นพลเรือนและใครเป็นนักรบติดอาวุธ ทั้งนี้ ทางอิสราเอลระบุว่าได้สังหารนักรบฮามาสไปแล้วเป็นหลักพันคน

อย่างไรก็ตาม หลังจากการร้องขอของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อิสราเอลได้ตกลงเปิดทางให้รถส่งเชื้อเพลิงสามารถเข้าสู่เขตกาซาได้วันละสองคัน ซึ่งเป็นจำนวนที่นายซาชี ฮาเนกบี ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ระบุว่าน้อยมาก ทั้งนี้ หน่วยทหารของอิสราเอลที่ดูแลเรื่องกิจการปาเลสไตน์ระบุว่า ปริมาณเชื้อเพลิงดังกล่าวคิดเป็นจำนวนราว 60,000 ลิตรต่อวัน

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า อิสราเอลตกลงที่จะให้มีการขนส่งเชื้อเพลิงสำหรับระบบการสื่อสารเข้าสู่เขตฉนวนกาซาอีกวันละ 10,000 ลิตร จากเดิมที่อิสราเอลยืนยันจะไม่ยอมให้มีการส่งเชื้อเพลิงเข้าไปในกาซาจนกว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันออกมา หลังจากที่รัฐบาลอิสราเอลเองก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักให้ทำมาตรการทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวออกมา

รายงานข่าวระบุว่า แรงกดดันดังกล่าวสะท้อนให้เห็นจากการที่มีผู้ชุมนุมจำนวนหลักพันคน รวมถึงครอบครัวของตัวประกันราว 50 ราย ที่เดินขบวนระยะทาง 70 กิโลเมตรไปยังทำเนียบของนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือตัวประกัน และให้มีการหยุดยิงหรือการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษฮามาสที่ทางการอิสราเอลคุมตัวไว้

ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีอิสราเอลได้ปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่มฮามาสที่จะให้แลกตัวประกันกับนักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกจำคุกอยู่ในอิสราเอลราว 6,000 คน

ผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยจำนวนมากเป็นเด็ก และมีเด็กทารกจำนวน 36 คนที่กำลังป่วยด้วยอาการท้องเสียรุนแรงเนื่องจากไม่มีน้ำสะอาดให้ดื่ม

ด้านสำนักข่าวอัลจาซีรารายงานสถานการณ์ที่ รพ.อัล-ชิฟาว่า นพ.อาห์หมัด มุคาลาที เปิดเผยกับสื่อว่า โรงพยาบาลกำลังเผชิญภาวะวิกฤติ โดยไม่มีไฟฟ้าใช้สำหรับเครื่องช่วยหายใจของผู้ป่วยไอซียูและระบบระบายอากาศ นอกจากนี้ ยังมีเด็กทารกจำนวน 36 คนที่กำลังป่วยด้วยอาการท้องเสียรุนแรงเนื่องจากไม่มีน้ำสะอาดให้ดื่ม

นายอาบู เซลเมีย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ระบุว่า มีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 52 ราย นับตั้งแต่เชื้อเพลิงหมดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับสถานการณ์สู้รบ ขณะนี้การโจมตีทางอากาศขยายวงจากพื้นที่ทางตอนเหนือไปสู่พื้นที่กาซาตอนใต้อย่างต่อเนื่อง ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ประชากรส่วนมากได้หนีมาหลบภัย รวมถึงคนหลักแสนที่อพยพจากพื้นที่ตอนเหนือลงมาตามคำแนะนำของกองทัพอิสราเอล

พล.ท.เฮิร์ลซ์ ฮาเลวี ฝ่ายเสนาธิการของอิสราเอลกล่าวเมื่อปลายสัปดาห์ว่า (16 พ.ย.) กองทัพเกือบจะสิ้นสุดภารกิจทางการทหารในพื้นที่กาซาตอนเหนือแล้ว แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่จะตกเป็นเป้าหมายต่อไปของการโจมตีเพื่อการกำจัดกลุ่มฮามาสอย่างถอนรากถอนโคน