นายกฯ จับมือ “จัสติน ทรูโด” ผลักดันความร่วมมือทวิภาคีไทย-แคนาดา

17 พ.ย. 2566 | 11:54 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2566 | 12:08 น.

"เศรษฐา" หารือทวิภาคีนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาวานนี้ (16 พ.ย.) มุ่งร่วมมือเสริมสร้างศักยภาพที่แน่นแฟ้นขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย รวมทั้งสนับสนุนการเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกัน เพื่อการเติบโตที่ครอบคลุมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

16 พ.ย. 2566 เวลา 10.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโกซึ่งช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) ณ ศูนย์ประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ ฝั่งทิศใต้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้พบหารือทวิภาคีกับ นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30

นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการหารือทวิภาคีดังกล่าวไว้ ดังนี้

ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างหวังที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในระดับทวิภาคีอย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น โดยมีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ระหว่างประเทศ เชื่อว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ถือเป็นกรอบความร่วมมือที่สำคัญที่จะทำให้เกิดโอกาสมากมาย และการประชุมในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจจากทั่วโลกจะได้ใช้โอกาสนี้พบกัน

การหารือทวิภาคีระดับผู้นำไทย-แคนาดา มีขึ้นเมื่อวันที่ 16 พ.ย.2566

นายกฯ กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้มาเพื่อประกาศให้ทราบว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว และพร้อมรับการลงทุน การเกิดสถานการณ์ระหว่างประเทศทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตมาภูมิภาคอาเซียน อาทิ ไทย และเวียดนาม มากขึ้น โดยมีภาคเอกชนชั้นนำต่างประเทศเข้ามาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยมากขึ้น ในครั้งนี้มีโอกาสได้พบหารือกับภาคเอกชนชั้นนำหลายราย ที่กำลังพิจารณา และพิจารณาใช้ไทยเป็นฐานการผลิต โดยไทยมีสิทธิประโยชน์และมาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับภาคเอกชนจำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการ

ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างหวังที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในระดับทวิภาคีอย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น

ขณะที่นายกฯ แคนาดากล่าวตอบว่า แคนาดาพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลของไทย ทั้งในระดับทวิภาคี และภูมิภาค เพื่อสานต่อพลวัตความสัมพันธ์ และความร่วมมือสาขาต่าง ๆ

ทั้งนี้ แคนาดามียุทธศาตร์อินโดแปซิฟิก ที่หวังจะร่วมมือกับไทย ซึ่งด้วยสถานการณ์ระหว่างประเทศทำให้ภาคเอกชนจะต้องเพิ่มศักยภาพความยืดหยุ่นในภาคการผลิตมากขึ้น รวมทั้งกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นด้วย

นายกฯ จับมือ “จัสติน ทรูโด” ผลักดันความร่วมมือทวิภาคีไทย-แคนาดา

ไทยถือเป็นประเทศคู่ค้ารายสำคัญของแคนาดา อย่างไรก็ดี ไทยและแคนาดายังไม่มี FTA ระหว่างกัน ทั้งนี้ ทั้งสองเห็นพ้องหากดำเนินการได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อไทยและแคนาดามาก โดยทั้งสองฝ่ายเห็นว่า ความตกลง FTA ระหว่าง ASEAN-Canada ซึ่งกำลังเจรจากันอยู่น่าจะเป็นโอกาสที่ดีให้ทั้งสองฝ่ายใช้ประโยชน์จาก FTA ดังกล่าว

ในช่วง 8 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ส.ค.) การค้าระหว่างไทยกับแคนาดามีมูลค่า 1,919.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปแคนาดามูลค่า 1,209.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากแคนาดามูลค่า 710.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน ข้าว เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า