สหรัฐเสียงแตกร่างงบฉบับใหม่ เสี่ยงชัตดาวน์ ปิดหน่วยงานรัฐบางส่วน ต.ค.นี้

29 ก.ย. 2566 | 08:12 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2566 | 09:18 น.

มีสัญญาณการเมืองว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังส่อเค้าว่าอาจต้องอยู่ในภาวะปิดการดำเนินงาน (Government Shutdown) บางส่วน เริ่มเร็วสุดวันอาทิตย์นี้ (1 ต.ค.) เหตุทั้งสองพรรคในสภา ยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องร่างงบประมาณฉบับใหม่ที่จะใช้ในอีก 12 เดือนต่อจากนี้

 

สำนักข่าววีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐอเมริกา รายงานวานนี้ (28 ก.ย.) ว่า รัฐบาลสหรัฐ กำลังเสี่ยง อาจจะต้อง ปิดการดำเนินงานและบริการภาครัฐ เป็นบางส่วน (Government Shutdown) เริ่มเร็วสุดวันอาทิตย์นี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่อง ร่างงบประมาณฉบับใหม่ สำหรับปีงบประมาณหน้า ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้

โดยนอกจากประเด็นที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้เรื่องขนาดของงบประมาณในปีหน้า บรรดานักการเมืองยังคงถกเถียงกันในหัวข้ออื่น ๆ ที่ผูกโยงกับร่างกฎหมายฉบับนี้ เช่น การให้ความช่วยเหลือยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย การควบคุมคนต่างด้าวที่พรมเเดนสหรัฐ-เม็กซิโก รวมทั้งสวัสดิการของรัฐที่จะนำไปช่วยคนยากจน

ประธานสภาผู้แทนฯสหรัฐ นายเควิน เเม็คคาร์ธีย์

ด้านวุฒิสภาซึ่งมีพรรคเดโมเเครตคุมเสียงข้างมาก เสนอให้ลงมติตามขั้นตอนเพื่อผ่านงบประมาณระยะสั้น ในการนำเงินไปใช้สำหรับงานภาครัฐ ระยะเวลา 7 สัปดาห์ (เป็นการจัดสรรงบประมาณชั่วคราว ใช้ได้จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน) ซึ่งเป็นความพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ชัตดาวน์ แต่ก็ถูกคัดค้านโดยประธานสภาผู้แทนฯ คือ นายเควิน เเม็คคาร์ธีย์ ซึ่งเป็นสส.จากพรรครีพับลิกัน ที่คุมเสียงข้างมากในสภาผู้เเทนฯ แบบปริ่มน้ำ โดยเขายืนกรานไม่ยอมรับร่างงบประมาณระยะสั้นที่วุฒิสภาเสนอมา

นอกจากนี้ สภาผู้เเทนฯ กำลังพยายามโหวตเพื่อแก้กฎหมายจัดสรรเงินสำหรับหน่วยงานรัฐ 4 แห่ง ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่ได้รับการลงมติสนับสนุนจากวุฒิสภา

ในวันพฤหัสบดี (28 ก.ย.) หน่วยงานรัฐ เริ่มแจ้งพนักงานแล้วว่า หากเกิดเหตุ Government Shutdown ที่จะเริ่มในวันอาทิตย์นี้ (1 ต.ค.) พวกเขาจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ภาวะชัตดาวน์ดังกล่าว หากเกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นครั้งที่ 4 ในรอบทศวรรษ

ภาวะชัตดาวน์ครั้งนี้ หากเกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 10 ปี

ประเด็นที่ยังติดขัด ซัดกันไม่ยั้ง แม้เสี่ยงชัตดาวน์

ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร(26 ก.ย.) วุฒิสภาที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก มีมติ 77-19 เสียง ให้เริ่มต้นการพิจารณาร่างกฏหมายที่เรียกว่า stopgap funding bill ซึ่งเป็นงบประมาณระยะสั้นฉบับชั่วคราว (Continuing Resolution-CR) เพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลกลางสามารถเปิดทำการต่อไปได้จนถึง 17 พฤศจิกายนนี้ รวมทั้งจัดสรรงบ 6,000 ล้านดอลลาร์ให้กับหน่วยงานด้านภัยพิบัติภายในประเทศ และอีก 6,000 ล้านดอลลาร์เป็นเงินช่วยเหลือยูเครน

แต่เรื่องไม่ราบรื่น เพราะนายเควิน แมคคาร์ธีย์ ประธานสภาผู้แทนฯ จากพรรครีพับลิกัน ออกโรงคัดค้านร่างกฏหมายดังกล่าวเมื่อวันพุธ (27 ก.ย.) และว่า สส.รีพับลิกันอาจมีการเสนอร่างกฎหมาย stopgap funding bill ของฝั่งตนเองบ้างในวันศุกร์นี้ (29 ก.ย.) ซึ่งเป็น 1 วันก่อนเส้นตายปิดทำการรัฐบาลบางส่วน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ร่างงบประมาณจากฝั่งรีพับลิกัน จะเสนอให้ตัดการใช้จ่ายรัฐบาลกลางลง 8% ในหลายหน่วยงานและยกระดับความมั่นคงบริเวณชายแดน แต่ร่างงบฯที่ว่านี้ ถูกปฏิเสธจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเป็นฝั่งพรรคเดโมแครต และแม้แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันด้วยกันเอง บางส่วนก็ไม่เอาด้วยกับร่างงบประมาณดังกล่าว

ท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้น นายมิทช์ แม็คคอนแนลล์ สว. ผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐ ได้ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายลงมือทำเพื่อเลี่ยงเหตุการณ์ชัตดาวน์ โดยเตือนว่า “การปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐคือข่าวร้ายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมองแบบไหนก็ตาม”

การชัตดาวน์รอบใหม่จะเกิดขึ้นหรือไม่ หากเกิดก็จะเริ่มในวันอาทิตย์นี้ (1 ต.ค. 2566)

เปรียบเปรยไม่ต่างจากสงครามกลางเมือง

ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นส่งเเรงกระเพื่อมไปสู่ตลาดทุนสหรัฐ เมื่อบริษัทวิเคราะห์การเงินลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา จากอันดับสูงสุด AAA ลงมาหนึ่งขั้นเหลือ AA+ ก่อนหน้าในปีนี้ โดยอ้างถึงความเสี่ยงทางการเมืองต่อการผ่านงบประมาณและส่งผลเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของสหรัฐ

นายฮาคีม เจฟฟรีส์ สส.จากพรรคเดโมเเครตกล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันเปรียบได้กับ "สงครามกลางเมือง" เลยทีเดียว ขณะที่นายเเมคคาร์ธีย์ ในฐานะประธานสภาผู้เเทนราษฎร หวังว่าจะสามารถผ่านร่างงบประมาณปี 2024 สำหรับการเบิกจ่ายฝ่ายกลาโหม มูลค่า 886,000 ล้านดอลลาร์ได้ทันเวลา 

ก่อนหน้านี้ ฝ่ายนักการเมืองสายเเข็งของรีพับลิกันได้คัดค้านการใช้จ่ายภาครัฐ เเละเรียกร้องให้ตัดงบประมาณแผ่นดินลง 120,000 ล้านดอลลาร์จากที่ปธน.ไบเดนและนายเเมคคาร์ธีย์ตกลงกันไว้ให้เหลือ 1.47 ล้านล้านดอลลาร์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หากผ่านงบระยะสั้นได้ รัฐบาลจะมีเงินสำหรับดำเนินงานต่อไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมหรือกลางเดือนพฤศจิกายน จากนั้นก็อาจเข้าสู่ความอึมครึมรอบใหม่อีก

นายชิป รอย สส.สายแข็งพรรครีพับลิกัน กล่าวอย่างเปิดเผยว่า เขาคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ชัตดาวน์ ขณะที่เพื่อนร่วมพรรคสายกลางของนายเเมคคาร์ธีย์ มองในเชิงบวกว่า ในที่สุดเเล้วน่าจะสามารถผ่านร่างงบประมาณได้ในระดับที่นายเเมคคาร์ธีย์และปธน.ไบเดนเคยตกลงกันไว้

แต่ก็มีนักการเมืองจากพรรครีพับลิกันบางรายที่กังวลว่า การที่นายเเมคคาร์ธีย์ได้ตัดสินใจเรื่องกระบวนการตรวจสอบเพื่อขอถอดถอนปธน.ไบเดนไปก่อนหน้านี้ อาจสร้างอุปสรรคต่อความร่วมมือระหว่างทั้งสองพรรคในเรื่องการผลักดันกฎหมายงบประมาณแผ่นดินก็เป็นได้