จับตา เศรษฐกิจลาวครึ่งปีหลัง เงินเฟ้อ -หนี้สาธารณะ-เงินกีบอ่อนค่ารุมเร้า

18 ก.ย. 2566 | 15:10 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ย. 2566 | 16:14 น.

สปป.ลาว หนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านของไทย กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำจากหลากหลายปัจจัย ทำให้เกิดข้อสงสัยที่ว่า เศรษฐกิจลาวกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจหนักขึ้นหรือไม่

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือสปป.ลาว กำลังเผชิญอยู่กับวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งกับค่าครองชีพของประชาชน รายได้ การลงทุน เศรษฐกิจภายในประเทศ หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น และค่าเงินกีบตกต่ำ

อีกทั้งธนาคารไทยที่เปิดกิจการในลาวมีการประกาศปิดให้บริการในบางสาขา รวมถึงมีที่ยกเลิกกิจการไป ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจของลาวกำลังเผชิญวิกฤติที่หนักขึ้น
 

ปัจจัยต่างๆ ที่กระทบต่อเศรษฐกิจของสปป.ลาว

  • ภาวะเงินเฟ้อกระทบรายได้และค่าครองชีพ

ประเทศลาวมีการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากต่างประเทศ ทำให้สินค้ามีราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าครองชีพของประชาชนสูงตามไปด้วย ในขณะที่รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ 
    

  • หนี้สินต่างประเทศรอการชำระ

ลาวมีเจ้าหนี้รายใหญ่คือ ประเทศจีน ที่เข้ามาช่วยหนุนค่าเงินลาวที่อ่อนค่าจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น และปัจจัยหลักที่ทำให้ลาวเกิดการขาดดุลคือ ความจำเป็นที่จะต้องซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ โดยหลักๆ ลาวจะซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากประเทศไทย แต่เนื่องจากลาวกำลังขาดแคลนเงินดอลลาร์และเงินบาท ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจากไทยมีราคาที่สูง ซึ่งสกุลเงินที่ไทยรองรับในการซื้อขายน้ำมันคือสกุลเงินดอลลาร์ 

ทั้งนี้ จีนได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านพลังงานให้กับลาว โดยบริษัทน้ำมันเชื้อเพลิงในจีนได้รองรับการซื้อน้ำมันด้วยสกุลเงินกีบ ทำให้ลาวหันมานำเข้าน้ำมันจากจีน เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคถีบตัวสูงขึ้น            

 

  • หนี้สาธารณะพุ่งสูง

 เนื่องจากลาวต้องใช้เงินสกุลดอลลาร์ในการชำระหนี้ต่างประเทศ ประกอบกับราคานำเข้าน้ำมันที่สูงขึ้นจากผลกระทบของเหตุการณ์สงครามยูเครน ทำให้ภายในประเทศมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น เพราะสินค้าที่ลาวนำเข้ามากที่สุดคือ น้ำมันเชื้อเพลิง

 

  • เงินกีบอ่อนค่า 

ลาวกำลังเผชิญค่าเงินกีบอ่อนตัวต่ำมาก เนื่องจากลาวยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าและน้ำมันจากต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการซื้อสินค้าต่างๆ ในราคาที่สูงขึ้น ประกอบกับประเทศจีนที่เข้ามาเป็นเจ้าหนี้ใหญ่ของลาวก็กำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวอยู่เช่นเดียวกัน 
ทำให้เศรษฐกิจลาวปรับตัวช้าลงตามไปด้วย และประชาชนในประเทศมีการออกไปเป็นแรงงานในต่างประเทศอย่างไทยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ จากภาวะเศรษฐกิจของสปป.ลาวในขณะนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยเช่นเดียวกัน  


ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของลาว กระทบส่งออกไทย

เนื่องจากประเทศลาวมีค่าเงินกีบอ่อนค่า และมีการปรับขึ้นของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งสูงจากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และหนึ่งในนั้นคือน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งหลักๆ สปป.ลาวมีการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากไทย แต่เพราะลาวกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนเงินดอลลาร์และเงินบาท ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ซื้อจากไทยมีราคาที่สูง ประกอบกับที่กำลังขาดแคลนเงินสกุลบาทและดอลลาร์ ลาวจึงหันไปซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากประเทศจีนที่รองรับสกุลเงินกีบแทน 


แนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสปป.ลาว

จากในที่ประชุมรัฐบาลสมัยสามัญประจำเดือนกรกฎาคม 2566 นายอาลุนไซ สุนนะลาด รัฐมนตรี หัวหน้าห้องว่าการสำนักงานนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้เผยแพร่หนังสือแจ้งเรื่องการปรับค่าแรงขั้นต่ำในลาว โดยระบุเอาไว้ว่า ได้มีมติให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจากเดือนละ 1.3 ล้านกีบ เป็น 1.6 ล้านกีบ (ประมาณ 2,800 บาทไทย) หรือเพิ่มขึ้นเป็น 23% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 นี้เป็นต้นไป