เปิดประวัติ “ฮุน มาเนต” หลังบิดา “ฮุนเซน” ประกาศลาออกนายกรัฐมนตรี

26 ก.ค. 2566 | 15:40 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ค. 2566 | 15:48 น.
758

เปิดประวัติ “ฮุน มาเนต” หลังบิดา “ฮุนเซน” ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังปกครองประเทศกัมพูชา คนเดียวยาวนานเกือบ 40 ปี ล่าสุดเลือกตั้งกัมพูชา พรรคประชาชนกัมพูชา ชนะแบบแลนด์สไลด์

เลือกตั้งกัมพูชา 2566 จากกรณีที่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566  รายงานว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่าจะไม่ดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลชุดใหม่ หลังพรรคประชาชนกัมพูชา ( ซีพีพี ) “ชนะแบบแลนด์สไลด์” ในการเลือกตั้งกัมพูชา 2566  เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ด้วยจำนวน 120 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนอีก 5 ที่เหลือเป็นของพรรคฟุนซินเปก

พร้อมทั้งประกาศว่า พล.อ.ฮุน มาเนต บุตรชายคนโต วัย 45 ปี ซึ่งได้รับเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสมัยแรก จะเป็นผู้นำการจัดตั้งรัฐบาล และว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยในระหว่างนี้ สมเด็จฮุน เซน จะยังคงรักษาการในตำแหน่งผู้นำรัฐบาล

พลิกประวัติ “ฮุน มาเนต”

ฮุน มาเนต เป็นบุตรชายคนโตของ ฮุน เซน กับนางบุนรานี เกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2520 ที่จังหวัดกำปงจาม  มีพี่น้องอีก 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน (และยังมีน้องสาวบุญธรรมอีก 1 คน)

 ฮุน มาเนต เป็นบุตรคนที่สอง แต่เป็นบุตรชายคนแรก เขาจบการศึกษาจากวิทยาลัยกองทัพบกสหรัฐอเมริกาที่เมืองเวสต์พอยต์ รัฐนิวยอร์ก เมื่อปี ค.ศ. 1999 (พศ. 2542) จากนั้นได้ศึกษาต่อด้านเศรษฐศาสตร์จนจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ

เมื่อสำเร็จการศึกษาและเดินทางกลับจากต่างประเทศ ก็เข้ารับราชการทหารกองทัพกัมพูชา ติดยศร้อยตรี สังกัดกองพลน้อยที่ 70 จากนั้น ฮุน มาเนต ได้รับการประดับยศพลจัตวา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552 และเลื่อนเป็นพลตรี และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลน้อยที่ 70 ซึ่งมีหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้าย และตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ผู้นำ เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

 

 

ต่อมาในปี 2562 ก็ได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกราชอาณาจักรกัมพูชา และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด

สถานภาพการสมรส ฮุน มาเนต แต่งงานแล้วกับภรรยาชื่อ เพชร จันมุนี

ก่อนหน้านี้ ฮุน เซน เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศญี่ปุ่นก็มีตระกูลการเมือง เช่น ตระกูล “อาเบะ” ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองหลายชั่วอายุคน.