แคนาดาผจญไฟป่าครั้งรุนแรงในประวัติศาสตร์ ควันพิษส่งผลถึงสหรัฐ

12 มิ.ย. 2566 | 03:20 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มิ.ย. 2566 | 06:28 น.

แคนาดากำลังเผชิญไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ไหม้แล้ว 416 จุดทั่วประเทศ คาดลามยาวตลอดฤดูร้อน ขณะควันไฟส่งผลกระทบถึงสหรัฐอเมริกา

 

ไฟป่า ครั้งใหญ่ใน แคนาดา ซึ่งกำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นและไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ต้องอพยพประชาชนนับแสนคนทั่วประเทศ ทางการประกาศเตือนว่าไฟป่าครั้งนี้อาจกินเวลายาวนานตลอดช่วงฤดูร้อน ขณะพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ สหรัฐ ถูกปกคลุมด้วย หมอกควันจากไฟป่า ในแคนาดาที่ถูกลมพัดมา โดยหมอกควันนี้ประกอบด้วยแก๊สอันตรายและฝุ่นละอองที่ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (11 มิ.ย.) ว่า ไฟป่าครั้งนี้กินพื้นที่กว่า 46,000 ตารางกิโลเมตรนับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนหน้านี้ เนื่องจากแคนาดามีอุณหภูมิร้อนเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

สาเหตุของไฟป่าแคนาดา

ฤดูไฟป่าในแคนาดาปีนี้ (2023) เกิดขึ้นเร็วกว่าปกติและมีความรุนแรงกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่อบอุ่นและแห้งแล้ง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ปีนี้อาจเป็นปีที่แคนาดามีปัญหาไฟป่ารุนแรงที่สุดปีหนึ่งในประวัติศาสตร์

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่แคนาดาประกาศเตือนภัยคุณภาพอากาศในนครโตรอนโตและกรุงออตตาวา ซึ่งดัชนีคุณภาพอากาศระบุว่า "มีความเสี่ยงสูง" ต่อสุขภาพ

เวลานี้กำลังเกิดไฟป่าอีกหลายจุดในเกือบ 10 มณฑลและเขตปกครองต่าง ๆ ในแคนาดา

เวลานี้กำลังเกิดไฟป่าอีกหลายจุดในเกือบ 10 มณฑลและเขตปกครองต่าง ๆ ในแคนาดา โดยมณฑลควิเบกได้รับผลกระทบจากวิกฤตไฟป่าครั้งนี้มากที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าไฟป่าส่วนใหญ่เกิดจากฟ้าผ่า

ตามปกติแล้ว ไฟป่ามักเกิดขึ้นทางภาคตะวันตกของแคนาดา แต่ปีนี้ภาคตะวันออก รวมทั้งมณฑลควิเบกและมณฑลโนวาสโคเชีย ต่างเผชิญไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งเช่นกัน จนรัฐบาลกลางแคนาดาต้องส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยจัดการภาวะฉุกเฉิน โดยคาดว่ามีประชาชนอพยพหนีไฟป่าแล้วอย่างน้อย 120,000 คนทั่วประเทศ

นายฟรองซัวส์ บอนนาร์เดล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของรัฐควิเบกทางภาคตะวันออกของแคนาดา กล่าวเมื่อวันเสาร์ (10 มิ.ย.) ว่า สถานการณ์ไฟป่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของควิเบกทรงตัวแล้ว แต่ในภาคกลางและภาคตะวันตกเฉียงเหนือยังเป็นไปอย่างยากลำบาก และหลายเมืองถูกไฟไหม้

ประชาชนราว 14,000 คนในรัฐควิเบก ถูกสั่งให้อพยพ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมไฟได้

"นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของควิเบกที่ต้องรับมือกับไฟป่าที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่มากขนาดนี้ และต้องอพยพผู้คนเป็นจำนวนมาก เราคิดว่าอาจจะต้องรับมือกับไฟป่าไปตลอดทั้งฤดูร้อนนี้" นายบอนนาร์เดล กล่าว

ด้านหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมแคนาดาจัดทำบัญชีจำนวนไฟป่า โดยพบว่ามีไฟป่าที่กำลังลุกไหม้อยู่ทั่วประเทศเวลานี้ 416 จุด โดยในจำนวนนี้ 203 จุด เป็นไฟป่าประเภทที่ "ไม่สามารถควบคุมได้"

หมอกควันไฟป่าแคนาดาส่งผลกระทบถึงสหรัฐ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจากไฟป่าในแคนาดา โดยหมอกควันนี้ประกอบด้วยแก๊สอันตรายและฝุ่นละอองที่ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ ความเสี่ยงจากควันไฟป่าทำให้หลายพื้นที่ในสหรัฐ รวมทั้งนครนิวยอร์ก กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน 15 รัฐของสหรัฐ ตั้งแต่รัฐเวอร์มอนต์จนถึงรัฐเซาธ์แคโรไลนาทางภาคตะวันออก ไปจนถึงรัฐแคนซัสและโอไฮโอในแถบกลางประเทศ ต่างประกาศเตือนภัยด้านสุขภาพที่เกิดจากควันพิษเหล่านี้

ที่กรุงวอชิงตันและรัฐใกล้เคียง หมอกควันพิษลอยปกคลุมท้องฟ้าจนทางการต้องเตือนภัยคุณภาพอากาศ และยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ พร้อมขอให้ประชาชนจำกัดเวลาการอยู่นอกบ้าน และผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจควรสวมหน้ากากเวลาออกไปข้างนอก

ที่นครนิวยอร์ก ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทาและในอากาศมีกลิ่นไหม้ อาคารระฟ้าต่าง ๆ ถูกกลืนหายไปในหมอกควัน หลายพื้นที่มองเห็นพระอาทิตย์เป็นเพียงดวงไฟสีส้ม

คำแนะนำด้านสุขภาพคือ ควรลดกิจกรรมกลางแจ้ง งดเล่นกีฬาหนัก ๆ และสวมหน้ากาก N95

อันตรายจากควันไฟป่า

ควันไฟป่ามีพิษมากกว่ามลภาวะทางอากาศโดยทั่วไป และล่องลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายสัปดาห์ ทั้งยังสามารถพัดไปได้เป็นระยะทางไกล

ไฟป่าไม่เพียงแต่เผาไหม้ต้นไม้เท่านั้น แต่ยังเผาทำลายอาคารบ้านเรือน และยานพาหนะ ในควันไฟป่าจึงประกอบด้วยทั้งอนุภาคชีวภาพ และอนุภาคของสารเคมี เหล็ก พลาสติก และสารสังเคราะห์อื่น ๆ

แล้วควันไฟป่ามีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไรได้บ้าง

  • จากการทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่า ควันไฟป่าทำให้เกิดอาการอักเสบและทำให้เนื้อเยื่อเสียหายได้มากกว่ามลภาวะทางอากาศในปริมาณเท่ากัน
  • ผลการศึกษาในมนุษย์ยังบ่งชี้ว่า ควันไฟป่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอัตราการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ทั้งยังทำให้มีผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉินจากภาวะในระบบทางเดินหายใจมากขึ้น และทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ควันไฟป่ายังมีส่วนต่อการระคายเคืองตาและปัญหาผิวหนังด้วย
  • ผลกระทบจากควันไฟป่ายังอาจตกค้างอยู่ได้นานหลายปี ยกตัวอย่างกรณีเพลิงไหม้เหมืองถ่านหินฮาเซลวูดในประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2014 ผู้ที่อาศัยในบริเวณนั้นยังคงมีอัตราเกิดโรคหัวใจสูงขึ้นหลังจากนั้นถึงสองปีครึ่ง และเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจต่อไปอีกห้าปี
  • นอกจากนี้ ควันไฟป่ายังส่งผลต่อผู้ตั้งครรภ์ โดยเกี่ยวข้องกับการแท้งบุตร การให้กำเนิดทารกที่มีน้ำหนักต่ำ และการคลอดก่อนกำหนด โดยผลการศึกษาที่ยังไม่ได้รับการตรวจทานในรัฐแคลิฟอร์เนียเผยว่า การสัมผัสถูกควันไฟป่า มีส่วนเชื่อมโยงกับความเสียหายของเซลล์รกในช่วงระยะแรกและระยะที่สอง
  • ยังมีรายงานจากนักวิจัยในแคนาดาว่า ผู้ที่อาศัยอยู่นอกเมืองใหญ่ และอยู่ในระยะที่ห่างจากไฟป่าไม่เกิน 50 กิโลเมตรในช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 4.9% และมีความเสี่ยงเป็นเนื้องอกในสมองเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้สัมผัสกับควันไฟป่า
  • ด้านกลุ่มนักวิจัยในรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า การสัมผัสกับควันไฟป่า จากไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2018 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของการรับรู้และสมองในอีก 6-12 เดือน หลังสัมผัสกับควันไฟป่า โดยอาจเกี่ยวข้องกับความเครียดและอาการบอบช้ำทางจิตใจ
  • ข้อมูลอีกชุดหนึ่งจากรัฐแคลิเฟอร์เนีย ยังระบุด้วยว่า ผู้ที่สัมผัสถูกควันไฟป่ามีแนวโน้มติดเชื้อราเพิ่มขึ้น ในช่วงหลายเดือนหลังสัมผัสกับควันแล้ว โดยอาจเป็นเพราะสปอร์เชื้อราที่ลอยมากับควันไฟ

ยังมีเรื่องที่เราไม่รู้เกี่ยวกับควันไฟป่า

เหตุไฟป่าที่เกิดบ่อยครั้งมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้ผู้คนต้องสัมผัสกับควันไฟป่าบ่อยขึ้น แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสควันไฟป่าติดต่อกันนานหลายฤดู จะมีอะไรบ้าง เนื่องจากต้องคำนึงถึงว่า ผู้คนจะเผชิญกับควันไฟป่ากี่ครั้ง แต่ละครั้งเกิดขึ้นนานเท่าใด และในควันไฟป่ามีสารเคมีอะไรบ้าง

ทั้งนี้ งานวิจัยในปัจจุบันกำลังศึกษาผลกระทบระยะยาวของละอองควันต่อแหล่งน้ำ แหล่งเกษตรกรรม อาหารของปศุสัตว์ รวมทั้งผลกระทบระยาวของควันไฟป่าในเขตตัวเมือง ผลกระทบต่อการพัฒนาของระบบประสาทและทางเดินหายใจของทารกในครรภ์ รวมทั้งมีการศึกษาว่า ควันไฟป่าทำให้ผลกระทบจากอากาศร้อนรุนแรงขึ้นหรือไม่

ก่อนหน้านี้ นักวิจัยได้เตือนว่า สารอาหารที่มากับควันไฟป่า อาจทำให้สาหร่ายจำนวนมากเติบโตในแหล่งน้ำ และอาจส่งผลต่อแหล่งน้ำดื่มและระบบนิเวศของทะเลสาบได้

ดัก บรักก์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์สาธารณสุข วิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต กล่าวว่า ควันไฟป่าอาจเป็นภัยถึงชีวิตได้ และผู้คนควรลดการสัมผัสควันไฟป่า โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

วิธีลดความเสี่ยงจากควันไฟป่า

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การรับมือกับควันไฟป่าที่ดีที่สุด คือการลดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะงดเล่นกีฬาหนัก ๆ และสวมหน้ากาก N95