การที่ ‘กรุงเทพฯ’ เมืองฟ้าอมรของไทย ได้รับการจัดอันดับเป็น “เมืองจุดหมายปลายทางด้านอาหาร” หรือ Food Destination อันดับที่ 13 ประจำปีนี้จากการโหวตของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จัดทำโดยเว็บไซต์ยอดฮิตด้านการท่องเที่ยว ‘ทริปแอดไวเซอร์’ (TripAdvisor) ทำให้เราต้องตามติดไปดูกันต่อ ว่า 12 อันดับแรกที่นำไทยอยู่นั้น เป็นเมืองอะไรในโลกใบนี้ และด้วยเหตุผลอะไร
อันดับ1 กรุงโรม ประเทศอิตาลี
มีคำกล่าวว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว และแน่นอนว่า สำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าจะให้ดื่มด่ำกับกรุงโรมอย่างฉ่ำใจก็ต้องใช้เวลามากกว่านั้น เพราะที่นี่เต็มไปด้วยจัตุรัสกลางเมือง ตลาดนัดกลางแจ้ง และโบราณสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ถ้าเป็นเรื่องของกินแล้วละก็ อย่าลืมเริ่มวันท่องเที่ยวของคุณด้วยกาแฟเอสเปรสโซหอมกรุ่นแบบต้นตำรับ และไอศกรีมเจลาโต และถ้าช็อปปิ้งจนหมดพลัง ก็ไปเติมให้เต็มด้วยเมนูพาสต้า อาร์ติโช๊คผัด หรือสตูว์หางวัวที่นุ่มละมุนในปาก ที่นี่ยังมีฟู้ดทัวร์ หรือทัวร์ตะลอนเดินกินในย่าน Prati ที่คนท้องถิ่นมาหาอาหารอร่อยใส่ท้อง
อันดับ2 เกาะครีต ประเทศกรีซ
ตำนานเล่าว่า นี่คือสถานที่กำเนิดของเทพ ‘ซุส’ ที่เป็นราชาแห่งทวยเทพทั้งปวงในเทพปกรณัมของกรีกโบราณ และยังเป็นแหล่งอารยธรรมสมัยใหม่แห่งแรกของยุโรป อุดมไปด้วยแหล่งโบราณคดีและประวัติศาสตร์ นี่คืออัญมณีแห่งเมดิเตอร์เรเนียน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องอาหาร เมนูพาสต้าและอาหารทะเลสดใหม่ เคล้าไวน์ที่ผลิตในท้องถิ่น รับกลิ่นอายทะเลและเนินเขาเป็นแบ็คกราวด์ คือที่สุดของที่สุด
อันดับ3 ฮานอย ประเทศเวียดนาม
ความเก่าคลาสสิคและความทันสมัยที่คืบคลานเข้ามา เป็นเสน่ห์แบบผสมผสานในเมืองหลวงของเวียดนาม นอกจากสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ฮานอยยังร่มรื่นด้วยสวนสาธารณะ ทะเลสาบ ถนนใหญ่ที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาไปตลอดแนว มีวัดและเจดีย์กว่า 600 แห่ง ที่นี่ยังมีแหล่งกินเที่ยวตามตรอกซอกซอย รวมทั้งมื้อพิเศษขณะล่องเรือเที่ยวชมอ่าวฮาลอง และทัวร์ชมตลาดที่ไกด์นำพาคุณไปจ่ายกับข้าว จากนั้นกลับมาเข้าคลาสสอนทำอาหารเวียดนามแบบใกล้ชิด ผู้เข้าคลาสไม่เกิน 10 คน
อันดับ4 เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
นอกจากการดื่มด่ำบรรยากาศที่อบอวลด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะแล้ว ผู้มาเยือนเมืองฟลอเรนซ์ต้องได้อิ่มเอมกับอาหารท้องถิ่นสไตล์ทัสคานีที่เลิศรส หลากหลายเมนูที่ปรุงด้วยน้ำมันมะกอกรสโอชาและเป็นมิตรต่อสุขภาพ จิบไวน์ขณะเยี่ยมชมไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์
อันดับ5 ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เมืองรุ่มรวยเสน่ห์ที่มีค่าเฟ่น่ารักๆ ทั้งในร่มและกลางแจ้งหลากหลายแห่งริมถนน เชิญชวนให้เข้าไปนั่งจิบกาแฟหอมกรุ่นแกล้มช็อคโกแลตรสละมุน ถ้าเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรม โบสถ์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์จนจุใจแล้ว อย่าพลาดชาร์จพลังด้วยมื้ออาหารขณะนั่งเรือล่องแม่น้ำแซน หรือจะซื้อทัวร์ชิมอาหาร+จิบไวน์สไตล์ฝรั่งเศสในย่านมงมาร์ตก็ฟินได้แบบไม่ต้องดิ้นรนเอง
อันดับ6 บาร์เซโลนา สเปน
ผู้ที่ชื่นชอบศิลปะของซาลวาดอร์ ดาลี ศิลปินชาวสเปนที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางบนแนวทางศิลปะเหนือจริง และอันตอนี เกาดี้ เทพแห่งงานสถาปัตยกรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์และเป็นตัวของตัวเองอย่างสูง ต้องไม่พลาดมาที่นี่ หลังดื่มด่ำกับงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตา นักท่องเที่ยวยังสามารถตื่นใจกับ ‘แซงเกรีย’ เครื่องดื่มที่ผสมขึ้นจากไวน์แดง บรั่นดี และผลไม้ กินแกล้มกับ ‘ทาปาส’ อาหารจานเล็กๆ ที่เสิร์ฟในบาร์โดยทั่วไปในสเปน แค่นี้ก็ฟินและทำให้บรรยากาศการสังสรรค์ออกรสชาติเป็นอย่างยิ่ง
อันดับ7 เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
ลิสบอนเป็นเมืองแห่งพิพิธภัณฑ์ บรรยากาศครอบคลุมไปด้วยประวัติศาสตร์และมรดกโลก แต่สำหรับนักกินที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักไวน์ ลิสบอนมีทัวร์ล่องเรือชิมไวน์ รวมทั้งทัวร์ตะลอนชิมอาหาร เช่นในย่านอัลฟามา ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ที่สุดในลิสบอน ท่องไปตามถนนสายแคบ ๆที่มีทั้งเรื่องราวความเป็นมา และของกินท้องถิ่นให้เลือกชิม
อันดับ8 เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี
เนเปิลส์เป็นเมืองประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคอาณาจักรโรมัน ห่างจากกรุงโรมไปทางใต้ ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชั่วโมง เป็นเมืองใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของอิตาลี มีโรงโอเปร่าและโรงละครที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก และได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะกลางแจ้งเพราะมีรูปปั้นและอนุสาวรีย์ต่างๆมากมาย ที่นี่มีทัวร์สตรีทฟู้ดที่ไกด์จะนำนักท่องเที่ยวไปลิ้มรสอาหารที่ไม่ควรพลาดหากคุณได้ไปเยือนเมเปิลส์
อันดับ9 เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยส์เซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมืองเก่าแก่ที่มีบรรยากาศชวนให้พักผ่อนอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ขณะที่เพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีเล่นสดบน French Street ถนนสายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือนต้องไม่พลาดชิมอาหารสไตล์เคจันและครีโอล ที่ได้อิทธิพลมาจากฝรั่งเศส มีอาหารทะเลเป็นส่วนประกอบและผสมผสานวัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น หัวหอม และพริกหยวก
อันดับ10 จาไมก้า
นี่คือดินแดนแห่งป่าและผืนน้ำ ทรัพยากรป่าไม้ของจาไมก้าเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ แต่ถ้าเป็นสายกิน ที่นี่ก็ไม่ทำให้ใครต้องผิดหวัง อาหารทะเล ทัวร์ตะลอนชิมกาแฟอาราบิก้า ทัวร์ชิมเหล้ารัม และคอร์สทำอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวสายกินต้องไม่พลาด
อันดับ11 เมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาธ์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา
เป็นเมืองประวัติศาสตร์ทางตอนใต้ของสหรัฐ รอบล้อมด้วยพื้นที่การเกษตร และเป็นอีกเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส นอกจากจะมีทัวร์สยองขวัญสำหรับพวกที่ชอบตามล่าหาภูตผี หรือ Ghost Tour สำหรับผู้นิยมความตื่นเต้น-ท้าทายแล้ว เมืองชาร์ลสตัน ยังมีทัวร์ตะลอนชิมอาหาร ทัวร์เดินตลาดจ่ายกับข้าว อาหารจานเด็ดของที่นี่คือบาร์บีคิวสไตล์ท้องถิ่น โจ๊กข้าวโพดกุ้ง และขนมพราลีนส์
อันดับ12 เม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก
เม็กซิโกซิตี้ เมืองนี้ผสมผสานความเป็นเมืองอนุรักษ์ด้านประวัติศาสตร์และความเป็นสังคมเมืองแบบร่วมสมัยไว้ได้อย่างลงตัว ที่นี่มีทั้งพิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ และร้านอาหารในระดับเวิลด์คลาส รองรับการท่องเที่ยวได้ทุกรูปแบบ ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเริ่มทริปท่องเที่ยวสำหรับนักกินได้อย่างไร ขอแนะนำให้เริ่มกับ Historic Center Food Tour เป็นทัวร์ครึ่งวันสำหรับคนชื่นชอบลิ้มลองอาหารท้องถิ่น โดยจะมีไกด์นำไปตามย่านที่เป็นตลาดอาหาร และร้านริมถนน เพื่อให้ได้ลิ้มลองรสชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นมาของอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่น
อันดับ13 กรุงเทพ ประเทศไทย
ทริปแอดไวเซอร์ ระบุถึงสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย วัดวาอาราม สวรรค์แห่งการช็อปปิ้ง ขณะเดียวกัน กรุงเทพก็เป็นสวรรค์ของนักกินทั่วโลก เนื่องจากมีอาหารเลิศรสที่หลากหลาย รวมทั้งข้าวเหนียวมะม่วงที่เลื่องชื่อ
ขอบคุณข้อมูลจาก ทริปแอดไวเซอร์