สารคดี “แฮร์รี-เมแกน” Netflix สะเทือนราชวงศ์อังกฤษและกระแสตีกลับ

เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย สำหรับ ซีรีส์สารคดี “แฮร์รีเเละเมแกน” ที่เปิดตัวทาง Netflix เน็ตฟลิกซ์ ซึ่งมีทั้งหมด 6 ซึ่งใน 3 ตอนแรกเปิดตัวในวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการนำภาพข่าวมาร้อยเรียง แทรกบทสัมภาษณ์ของทั้งสองพระองค์ พระสหาย ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อชาติและสื่อ

พวกเขากำลังเปิดเผยความจริงทั้งหมดที่ไม่มีใครรู้มาก่อน ซึ่งแต่ในตอนแรกของสารคดี ได้ขึ้นข้อความว่า สมาชิกในราชวงศ์ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อเนื้อหาในสารคดีนี้

ทั้งนี้ การเปิดตัวสารคดีชุดนี้เกิดขึ้นเพียงสามเดือนภายหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ และพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงรับราชสมบัติเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่

เเละทันทีที่สารคดี เผยแพร่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่หลากหลาย เดลี่เมล รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 65 Netflix นำตัวอย่างภาพยนตร์สารคดี "แฮร์รี่ แอนด์ เมแกน" 2 คลิป เผยแพร่ทาง YouTube ปรากฏว่าผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงทั้งสองคลิปมียอดคนดูแล้วกว่า 7 ล้านวิว ขณะที่ยอดคนกดปุ่ม Dislike มากกว่า 400,000 ครั้ง   

เมื่อเข้าไปดู ทวิตเตอร์ของ Netflix ก็จะพบว่ามีทั้งด้านบวกและด้านลบต่อสารคดีดังกล่าว ฝ่ายหนึ่งชื่นชมความรักระหว่างดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ อีกฝ่ายก็วิจารณ์ความรักของทั้งสองพระองค์อย่างดุเดือด โดยมีประเด็นสำคัญก็คือ กล่าวหาว่ามุ่งจะทำเงินโกยรายได้จากความขัดแย้งกับพระราชวงศ์อังกฤษ

CNN ระบุว่า สำนักพระราชวังบักกิงแฮมจะต้องตอบโต้ต่อข้อกล่าวหาที่ปรากฎใน 3 ตอนสุดท้าย ทำให้สื่ออเมริกันที่เคยเห็นใจใน 3 ตอนแรก พากันกลับลำ ขณะที่เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์และรัชทายาทลำดับที่ 1 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ถูกคอลัมนิสต์บางคนตั้งคำถามถึงว่า ทรงคิดอะไรอยู่ในขณะที่พระอนุชาของพระองค์โจมตีอย่างหนัก 

ด้าน BBC รายงานว่า คลิปวิดีโอหนังตัวอย่างสารคดีแฮร์รี่เเละเมแกน ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบอย่างหนัก จากการนำฟุตเทจและภาพถ่ายต่างๆ มาชี้นำผู้ชมไปในทางที่ผิด ทำให้หลายคนเข้าใจว่าทั้งสองพระองค์ตกเป็นเหยื่อของราชวงศ์และช่างภาพสื่อต่างๆ 

แต่ถึงอย่างนั้นสปอตไลต์กลับไปตกอยู่ที่ราชวงศ์อังกฤษอยู่ดี เเละมีการจับตาว่าราชวงศ์จะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสารคดีเรื่องนี้ เพราะแน่นอนที่สุดว่าได้ส่งผลกระทบกับราชวงศ์ เนื่องสารคดีบอกเล่าชีวิตของ เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน หลังจากทั้งคู่ออกจากวังไปสร้างชีวิตครอบครัวในสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นถึงความลำบาก ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองพระองค์กับสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์ ทั้งยังต้องเผชิญกับการแบ่งชนชั้นภายในหมู่สมาชิกราชวงศ์ และโดนทอดทิ้งไม่ได้รับการปกป้องอีกด้วย