‘สารัชถ์’ GULF รวยปาดหน้าเจ้าของ SoftBank หลังทรัพย์สินเพิ่มกว่า 4.4 พันล้าน

23 พ.ย. 2565 | 15:38 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2565 | 01:13 น.
1.2 k

‘สารัชถ์’ ซีอีโอ GULF รวยเพิ่ม 125 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4,475 ล้านบาท ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีโลกอันดับที่ 143 แซงหน้า 'มาซาโยชิ ซัน' มหาเศรษฐีเบอร์ 3 ของญี่ปุ่น เจ้าของ SoftBank แล้ว จากการจัดอันดับล่าสุดของบลูมเบิร์ก 

 

ดัชนีมหาเศรษฐีโลกจัดโดยบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) ล่าสุด ขยับอันดับ ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ แห่งอาณาจักรกัลฟ์ หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับที่ 143 ของโลก แซงหน้า นายมาซาโยชิ ซัน มหาเศรษฐีเบอร์ 3 ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าของ SoftBank บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 145 ของทำเนียบมหาเศรษฐีโลก

 

สารัชถ์ รัตนาวะดี แห่ง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับที่ 143 ของโลก

ทั้งนี้ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับ 143 ของโลก ในการจัดอันดับของ Bloomberg Billionaires Index ด้วยทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,475 ล้านบาท) ทำให้มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของเขาขยับขึ้นเป็น 12,300 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4.4 แสนล้านบาท

สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับ 143 ของโลก ส่วนมาซาโยชิ ซัน แห่ง Softbank อยู่ในอันดับที่ 145

ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้สารัชถ์ มหาเศรษฐีด้านพลังงานซึ่งเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 2 ของประเทศไทยในปัจจุบัน มีทรัพย์สินแซงหน้านายมาซาโยชิ ซัน (Masayoshi Son) มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของญี่ปุ่น เจ้าของอาณาจักรซอฟต์แบงก์ (SoftBank) บริษัทด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร และนักลงทุนที่มีประวัติลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยีขั้นนำมากมายรวมทั้งยาฮู (Yahoo) และอาลีบาบา (Alibaba) โดยมาซาโยชิ อยู่ในอันดับที่ 145 ของโลก มีทรัพย์สินรวม 12,100 ล้านดอลลาร์ หรือลดลงมาแล้ว 8,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

มาซาโยชิ ซัน มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของญี่ปุ่น เจ้าของอาณาจักรซอฟต์แบงก์ (Softbank)


จากการจัดอันดับเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หรือย้อนไปเมื่อประมาณ 4 เดือนที่แล้ว นายสารัชถ์ยังอยู่ในอันดับที่ 163 ของทำเนียบมหาเศรษฐีโลกโลก โดยขณะนั้น เขามีมูลค่าทรัพย์สินที่ระดับ 11,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


บลูมเบิร์กไม่ได้ให้รายละเอียดว่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐของซีอีโอ GULF ผู้นี้ เพิ่มขึ้นมาจากไหน แต่การปรับเปลี่ยนอันดับมูลค่าทรัพย์สินนี้เป็นแบบเรียลไทม์ (Real-time) ซึ่งรวมถึงมูลค่าหุ้น จึงคาดว่าจะเกิดจากรายได้ในธุรกิจด้านพลังงาน และการที่หุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดหลักทรัพย์ไทยจะปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโอเปกออกมาให้ข่าวว่าจะไม่มีการเพิ่มการผลิตน้ำมัน และอาจจะลดการผลิตลงเพื่อทำให้ราคาน้ำมันในตลาดสมดุล


ณ เวลา 10.30 น. วันนี้ (23 พ.ย. 2565) หลังตลาดเปิดครึ่งชั่วโมง ราคาหุ้น GULF ปรับตัวขึ้น 0.98% จากราคาปิดก่อนหน้าที่  51 บาท ไปอยู่ที่ 51.5 บาท


ข้อมูลของบลูมเบิร์กระบุว่า สารัชถ์ รัตนาวะดี เป็นมหาเศรษฐีที่มีความร่ำรวยเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย โดยเขาเป็นรองเพียงนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) ซึ่งขึ้นแท่นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของไทยในปัจจุบัน และอยู่ในอันดับที่ 107 ของทำเนียบมหาเศรษฐีโลกของบลูมเบิร์ก ด้วยทรัพย์สินรวมที่มีมูลค่าทั้งสิ้น 14,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.11 แสนล้านบาท  

 

เจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจฯ อยู่ในอันดับที่ 107 ของทำเนียบมหาเศรษฐีโลกของบลูมเบิร์ก
บลูมเบิร์กรายงานว่า ทั้งสารัชถ์ รัตนาวะดี และเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นคนไทยเพียง 2 คนเท่านั้นที่ติดอันดับใน Bloomberg Billionaires Index ขณะที่นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ไม่ได้ติดอันดับของบลูมเบิร์ก แต่เขาติดอันดับ 1 ของมหาเศรษฐีไทยในการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ซึ่งคำนวณทรัพย์สินรวมเป็นครอบครัว