รู้จัก ‘เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ’ จุดเปลี่ยนสำคัญที่ต้องจับตา

08 พ.ย. 2565 | 09:02 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2565 | 16:21 น.
607

วันนี้ (อังคารที่ 8 พ.ย. 2565) เป็น วันเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐอเมริกา เป็นการขับเคี่ยวอีกครั้งระหว่างพรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับพรรครีพับลิกัน ที่ปัจจุบันมี นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี เป็นผู้นำโดยพฤตินัย

 

เรามาทำความรู้จัก ‘การเลือกตั้งกลางเทอม’ ของ สหรัฐอเมริกา ที่กำลังจะมีขึ้นในวันนี้ (8 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ว่าความหมายอย่างไรต่อชะตาทางการเมืองของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งพรรคเดโมแครต และนั่นจะส่งผลต่อสถานการณ์โลกด้วยหรือไม่  

 

  • เลือกตั้งกลางเทอมคืออะไร

การเลือกตั้งกลางเทอม หรือ US midterm elections หมายถึง การเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสมาชิก และผู้ว่าการรัฐ เมื่อประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งมาได้ครึ่งวาระ หรือ 2 ปี ดังนั้น ผลการเลือกตั้งจะมีผลอย่างยิ่งต่อการทำงานของประธานาธิบดีในวาระ 2 ปีที่เหลือ (ประธานาธิบดีสหรัฐดำรงตำแหน่งเทอมละ 4 ปี)

 

รัฐสภาสหรัฐ หรือ สภาคองเกรส ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ สภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) และวุฒิสภา (Senate)

อาคารรัฐสภาสหรัฐ  (สภาคองเกรส)

 

  • สภาผู้แทนราษฎร มีสมาชิก 435 คน แบ่งตามสัดส่วนของประชากรในมลรัฐ คือ ประชากร 575,000 คน ต่อ สมาชิก 1 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 2 ปี

ในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งสภา 435 คน

 

  • วุฒิสภา มีสมาชิกจากแต่ละมลรัฐ มลรัฐละ 2 คน รวมเป็น 100 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 6 ปี โดยสมาชิกจำนวน 1 ใน 3 ครบวาระทุก 2 ปี

 

วุฒิสภามีอำนาจในการ “รับรอง” หรือ “ไม่รับรอง” กฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎรนำเสนอ นอกจากนี้ ยังมีอำนาจในการให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบต่อบุคคลที่ประธานาธิบดีเสนอขอแต่งตั้ง รวมทั้งคณะรัฐมนตรี และให้สัตยาบันสนธิสัญญา ที่สำคัญคือ วุฒิสภายังมีอำนาจในการสอบสวนซักฟอกประธานาธิบดีด้วย ทั้งนี้ รองประธานาธิบดีสหรัฐเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง (President of the Senate)

 

ในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ จะมีการเลือกตั้ง ส.ว. 35 คน (คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของส.ว.ทั้งหมด)

 

นอกจากนี้ ยังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ 36 คน ผู้ว่าการดินแดนสหรัฐ 3 คน นายกเทศมนตรีและเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นอีกมากมาย

ในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ จะมีการเลือกตั้ง ส.ว. 35 คน

 

ความสำคัญของการเลือกตั้งกลางเทอม

ในช่วงสองปีที่ผ่านมาในวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน พรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา ซึ่งช่วยให้ปธน.ไบเดนสามารถผ่านกฎหมายที่เขาต้องการได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม เสียงข้างมากที่ว่านั้นยังเป็นไปอย่างฉิวเฉียดทำให้ศึกเลือกตั้งในวันนี้อาจพลิกชะตาการเมืองสหรัฐได้ในทันที ผลสำรวจก่อนการเลือกตั้งพบว่า มีความเป็นไปได้ที่พรรครีพับลิกันอาจพลิกมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่เดโมแครตยังสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาไว้ได้   

การเลือกตั้งครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่ความนิยมในตัวปธน.ไบเดน ลดลงมาก

อย่างไรก็ตาม มีบางจุดน่าสนใจที่ควรกล่าวถึงเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ

  • ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเพิ่มขึ้นมาก
  • นี่จะเป็นบททดสอบประชาธิปไตยทั่วประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุ “กลุ่มคนรักทรัมป์” บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2564 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ทรัมป์ยังคงถูกไต่สวนอยู่ในขณะนี้  

 

เราลองมาดูว่าผลสำรวจความเห็นประชาชน (โพล) ต่างๆ คาดการณ์ผลเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ ไว้อย่างไร

 

โพลหลายสำนักเชื่อว่า รีพับลิกันจะพลิกมาครองเสียงข้างมากได้ แต่หากเดโมแครตชนะทั้งสองสภาแบบพลิกความคาดหมาย นั่นก็หมายถึงการเปิดทางสะดวกให้ปธน.ไบเดน สามารถออกกฎหมายได้อีกหลายฉบับ อาทิ สิทธิการทำแท้ง การปฏิรูปตำรวจ ฯลฯ ในช่วง 2 ปีที่เหลือของวาระดำรงตำแหน่ง

 

หากรีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากแม้เพียงแค่สภาเดียว นั่นก็มากพอที่จะทำให้แผนการของไบเดนสะดุด ซึ่งจะมีผลต่อประเด็นปัญหาระดับโลกด้วย อาทิ

  • สหรัฐจะยังให้ความช่วยเหลือยูเครนทำสงครามกับรัสเซียอย่างไม่มีกำหนดอีกหรือไม่
  • แผนการสู้โลกร้อนของไบเดนอาจต้องเผชิญอุปสรรคในสภา
  • ไบเดนเอง อาจถูกสภาคองเกรสสอบสวนในทุกเรื่อง ตั้งแต่การถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานไปจนถึงข้อตกลงธุรกิจต่างประเทศของนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของเขา

 

นักวิเคราะห์เชื่อว่า การขัดแย้งในรัฐสภาสหรัฐไม่ใช่นิมิตหมายที่ดีแน่ ๆ เพราะมันอาจนำไปสู่ภาวะชะงักงัน (Gridlock) ในการดำเนินนโยบายสำคัญ ๆ ที่จะมีผลต่อสหรัฐเองและต่อสถานการณ์โลกด้วย และยังจะเป็นเช่นนั้นไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและสมาชิกสภาคองเกรสในครั้งหน้า