ผู้นำโลกน้อมถวายสดุดีพระเกียรติคุณ “ควีนเอลิซาเบธที่ 2”

09 ก.ย. 2565 | 10:14 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ย. 2565 | 17:26 น.

บุคคลสำคัญและผู้นำรัฐบาลทั่วโลก ร่วมแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร พร้อมถวายสดุดีพระเกียรติคุณทรงเป็นมหากษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยความกรุณา ความสง่างาม และทรงภารกิจโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อพสกนิกร

สำนักข่าวบีบีซี รายงานหลังจาก สำนักพระราชวังบักกิงแฮม ออกมาแถลงถึง การสวรรคต ของ สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้นำนานาประเทศทั่วโลก ต่างออกมาแสดงความอาลัย และถวายสดุดีถึงพระเกียรติคุณของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ทรงเป็น มหากษัตริย์ ที่ครองราชย์ยาวนานกว่า 70 ปีด้วยคุณธรรม ความตระหนักสำนึกในหน้าที่ ความอดทน รวมทั้งอารมณ์ขัน และความมีน้ำพระทัย

 

นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นบุคคลแรกๆ ที่ออกมาแสดงความอาลัยและถวายสดุดีว่า ตัวเขาเองจดจำสมเด็จพระราชินีนาถฯ ในฐานะพระราชินีผู้มีน้ำพระทัยงดงาม และเป็นมิตรกับฝรั่งเศส

 

ขณะที่ นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงเป็นยิ่งกว่ากษัตริย์ พระองค์คือนิยามของยุคสมัย ครั้งหนึ่งเมื่อคราวที่เขาเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรในปี 2564 พระประมุขแห่งสหราชอาณาจักรพระองค์นี้ ทำให้พวกเขาหลงเสน่ห์ด้วยไหวพริบ และเขายังประทับใจในน้ำพระทัยและความเอื้อเฟื้อของพระองค์ ทรงแบ่งปันความรู้อย่างไม่ถือพระองค์

"ทรงเป็นยิ่งกว่ากษัตริย์ พระองค์คือนิยามของยุคสมัย"

 

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดนเป็น 1 ในประธานาธิบดีสหรัฐ 14 คนที่เคยเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวสดุดีหลังทราบข่าวการสวรรคตว่า พระองค์ทำให้ทั้งโลกหลงใหล โดยการปกครองด้วยความกรุณาปรานี ความสง่างาม และทรงงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

 

ขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมมิตรภาพ สติปัญญา และอารมณ์ขันอันแสนวิเศษของสมเด็จพระราชินีนาถฯ เลย “ทรงเป็นสุภาพสตรีที่งดงามและยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเหมือนกับพระองค์อีกแล้ว” อดีตปธน.ทรัมป์โพสต์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Truth Social ของเขาเอง

 

"ทรงปกครองด้วยความกรุณาปรานี ความสง่างาม และทรงงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"

ด้าน นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ กล่าวถึงพระองค์ผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาเคยเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในการเดินทางเยือนอังกฤษ 2 ครั้ง “ผมจะไม่มีวันลืมความอบอุ่นและน้ำพระทัยของพระองค์ ในการพบกันครั้งหนึ่ง พระองค์ให้ผมดูผ้าเช็ดหน้าที่มหาตมา คานธี ถวายให้พระองค์เป็นของขวัญวันอภิเษกสมรส ผมจะถนอมความทรงจำนี้ไว้ตลอดไป”

 

นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เป็นอีกผู้หนึ่งที่ออกมาถวายความอาลัยเป็นคนแรกๆ หลังมีข่าวการสวรรคต เขากล่าวพลางกลั้นน้ำตาว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงเป็นที่รักยิ่งของชาวแคนาดา “ในโลกที่ซับซ้อนนี้ ความสง่างามและความมุ่งมั่นของพระองค์นำความสบายใจมาสู่เราทุกคน พระองค์เป็นคนโปรดที่สุดของผมในโลกนี้ และผมจะคิดถึงพระองค์เสมอ”

“ทรงเป็นสุภาพสตรีที่งดงามและยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเหมือนกับพระองค์อีกแล้ว”

ด้าน นายไอแซค เฮอร์ซอก ประธานาธิบดีอิสราเอล กล่าวถวายความอาลัยพร้อมถวายคำสดุดีว่า สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ผู้นำที่มีความรับผิดชอบ และดวงประทีปแห่งศีลธรรม ความเป็นมนุษย์ และความรักชาติ

 

“ควีนเอลิซาเบธเป็นบุคคลแห่งประวัติศาสตร์ พระองค์ใช้ชีวิตผ่านประวัติศาสตร์ สร้างประวัติศาสตร์ และพระองค์ได้ทิ้งมรดกอันดีเลิศและเป็นแรงบันดาลใจเอาไว้ให้พวกเรา”