จีนส่ง "บุคลากรด่านหน้า" กว่า 8,500 คน ขึ้นเกาะไหหลำสู้ศึกโควิดรอบล่าสุด

สำนักงานใหญ่การป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของ มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ซึ่งเป็นมณฑลเกาะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีน เปิดเผยว่าบุคลากรการแพทย์ หรือ บุคลากรด่านหน้า จำนวนมากกว่า 8,500 คน จาก 18 มณฑลทั่วประเทศจีน ได้ถูกส่งตัวไปยัง เกาะไห่หนาน แล้วในขณะนี้ เพื่อช่วยต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บนเกาะดังกล่าวรอบล่าสุด โดยเฉพาะที่เมืองซานย่า ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศชื่อดังของไห่หนาน

ทั้งนี้ ไห่หนานตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผล จำนวนรวม 1,042 ราย และมีผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ 465 ราย นับตั้งแต่มีรายงานพบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผลในเมืองซานย่าเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงเที่ยงวันจันทร์ (8 ส.ค.)

นอกจากนั้น ไห่หนานยังกำหนดให้พื้นที่ 250 แห่ง เป็นพื้นที่เสี่ยงโรคโควิด-19 ระดับสูง และอีก 145 แห่งเป็นพื้นที่เสี่ยงระดับปานกลาง เมื่อนับถึงเวลา 07.00 น. ของวันจันทร์ (8 ส.ค.)

สำนักงานฯ เผยว่าบุคลากรด่านหน้าที่เดินทางมาจากนอกมณฑลไห่หนานจะได้เข้าร่วมการศึกษาและกำกับดูแลทางระบาดวิทยา สุ่มตัวอย่างกรดนิวคลีอิก รักษาพยาบาล ตลอดจนการทดสอบกรดนิวคลีอิก

ทั้งนี้ เมืองซานย่า ในมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน ได้เดินหน้าใช้มาตรการป้องกันและควบคุมเพื่อต่อสู้กับการกลับมาระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยทีมบุคลากรการแพทย์เดินหน้าเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากประชาชนเพื่อทดสอบกรดนิวคลีอิก นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครนำสินค้าและผลไม้ไปมอบให้กับนักท่องเที่ยวที่ตกค้างอยู่ตามโรงแรมบนเกาะเพราะเจอมาตรการปิดเมือง ทำให้ออกไปไหนไม่ได้ 

ขณะเดียวกัน ยังมีทีมเจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการตรวจโรคโควิด- 19 ชั่วคราวแบบเต็นท์พองลม ซึ่งพวกเขาก็ทำงานกันอย่างต่อเนื่องแข่งกับเวลานี้ (อ่านเพิ่มเติม: จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองซานย่าบนเกาะไหหลำ ทัวริสต์ระส่ำ ตกค้าง 8 หมื่นคน ) 

โควิดคลัสเตอร์ไห่หนาน-ทิเบตปูพรมตรวจหาเชื้อ 

วันอังคารนี้ (9 ส.ค.) พื้นที่บางส่วนของเขตปกครองตนเองทิเบตกำลังปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมถึง 2 เมืองที่ใหญ่ที่สุดของทิเบต ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากคลัสเตอร์มณฑลไห่หนานและเขตปกครองตนเองซินเจียงทางตะวันตกของจีน

การระบาดของเชื้อไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยกำลังท้าทายรัฐบาลจีนในการสกัดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ในปัจจุบัน โดยภูมิภาคที่พบผู้ติดเชื้อค่อนข้างน้อยมานานกว่าสองปีกำลังต่อสู้กับการระบาด 

ทั้งนี้ จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ภายในประเทศเพิ่มอีก 828 รายเมื่อวันที่ 8 ส.ค. โดยพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 70% ในมณฑลไห่หนาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศ เช่นเดียวกับเขตปกครองตนเองซินเจียง ขณะที่ผู้ติดเชื้อที่เหลือนั้นมาจากกว่า 12 จังหวัดและภูมิภาค

ก่อนหน้านี้ ทิเบตพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพียงรายเดียวในระยะเวลากว่า 900 วัน แต่เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ทางการรายงานพบผู้ป่วยในท้องถิ่น 1 รายที่แสดงอาการ และ 21 รายที่ไม่แสดงอาการ
          

"ลาซา" ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดและเมืองหลวงของทิเบตได้ประกาศระงับการจัดงานขนาดใหญ่ รวมถึงปิดสถานบันเทิงและสถานที่ทางศาสนา ส่วนเมืองซีกาเจ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของทิเบต ถูกจำกัดการเดินทางเป็นระยะเวลา 3 วัน โดยประชาชนถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางเข้าหรือออกจากเมือง ขณะที่ธุรกิจส่วนใหญ่ถูกระงับเช่นกัน