จีนซ้อมรบกระทบเส้นทางเดินเรือ-เส้นทางบิน ท่าเรือหลักไต้หวันถูกปิดล้อม

04 ส.ค. 2565 | 14:52 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ส.ค. 2565 | 22:20 น.
3.0 k

จีนเริ่มปฏิบัติการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง "แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน" 6 จุดรอบเกาะไต้หวัน เที่ยงวันนี้ (4 ส.ค.) ถึงวันอาทิตย์ (7 ส.ค.) สื่อใหญ่จีนระบุ "นี่คือการซ้อมปิดล้อมไต้หวัน” บริษัทเดินเรือ-สายการบินปรับเส้นทางหวั่นลูกหลง ท่าเรือหลักไต้หวันถูกปิดกั้นโดยอัตโนมัติ  

สื่อของทางการจีนรายงานว่า กองทัพจีน ได้เปิดฉาก การซ้อมรบ รอบ ไต้หวัน ครั้งใหญ่ที่สุดแล้วในวันนี้ (4 ส.ค.) ใน 6 จุดทั้งทางทะเลและทางอากาศ หลังจากที่ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ที่ใช้เวลาเยือนไต้หวันตั้งแต่คืนวันอังคาร (2 ส.ค.) เป็นเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงได้เดินทางออกจากไต้หวันแล้วเมื่อวันพุธ (3 ส.ค.) โดยมุ่งหน้าสู่ประเทศเกาหลีใต้ การซ้อมรบครั้งนี้ ไม่เพียงแสดงแสนยานุภาพของจีนในช่องแคบไต้หวัน แต่ยังส่งผลปิดกั้น เส้นทางเดินเรือ เข้า-ออกไต้หวันโดยอัตโนมัติ ทั้งยังส่งกระทบ เส้นทางบิน อีกด้วย  

 

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีน รายงานว่า การซ้อมรบเริ่มในเวลาเที่ยงวันนี้ (4 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นของจีน หรือ 11.00 น. ตามเวลาไทย โดยจะเป็นการซ้อมด้วยการยิงกระสุนจริงในหลายจุดรอบไต้หวัน บางจุดอยู่ห่างจากชายฝั่งไต้หวันเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น และจะเสร็จสิ้นในเวลาเที่ยงวันอาทิตย์ (7 ส.ค.)

 

เกาะไต้หวันถูกปิดล้อมขณะจีนปฏิบัติการซ้อมรบ (ภาพข่าวซินหัว) ทั้งทางบกและทางอากาศ

ด้านโกลบอลไทมส์ สื่อรัฐบาลจีนภาคภาษาอังกฤษ รายงานอ้างนักวิเคราะห์ด้านการทหารว่า นี่เป็นการซ้อมรบแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และจะมีการยิง “ขีปนาวุธพิสัยไกล” ข้ามช่องแคบไต้หวันเป็นครั้งแรก ซึ่งจะทำให้ขีปนาวุธข้ามผ่านน่านฟ้าไต้หวันเป็นครั้งแรกด้วย ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นี่คือการ “ซ้อมปิดล้อมไต้หวัน” และอันที่จริงมีการซ้อมรบขนาดเล็กแบบเตรียมการมาตั้งแต่วันอังคาร (2 ส.ค.) เพื่อเตรียมพื้นฐานให้แก่การซ้อมรบครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้

 

“การซ้อมรบครั้งนี้ เป็นการฝึกซ้อมปฏิบัติการรวมชาติ และ หากเกิดความขัดแย้งทางการทหารในอนาคต แผนการที่ฝึกซ้อมไว้นี้ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นปฏิบัติการสู้รบ” โกลบอล ไทมส์ รายงานอ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจีน นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า กองทัพจีนวางแผนซ้อมยิงปืนใหญ่พิสัยไกลทั่วช่องแคบไต้หวัน

 

สำหรับพื้นที่การฝึกซ้อมนั้น บางแห่งจากทั้งหมด 6 จุดที่จีนประกาศและเผยภาพแผนที่ไว้ จะอยู่ในเขตน่านน้ำของไต้หวันด้วย ทั้งยังล้ำเข้าไปในเขตน่านฟ้าของไต้หวันที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศกำหนด คือ ในระยะ 12 ไมล์ทะเล หรือ 22.2 กิโลเมตรจากชายฝั่ง ดังนั้น ทางการไต้หวันจึงได้แจ้งให้บริษัทเดินเรือและสายการบินหลีกเลี่ยงพื้นที่เหล่านี้แล้วเพื่อความปลอดภัย

จีนซ้อมรบกระทบเส้นทางเดินเรือ-เส้นทางบิน ท่าเรือหลักไต้หวันถูกปิดล้อม

เจ้าหน้าที่ของไต้หวันที่ไม่ประสงค์เปิดเผยนาม ให้ความเห็นว่า การซ้อมรบของกองทัพจีนครั้งนี้ ละเมิดกฎของสหประชาชาติ บุกรุกน่านฟ้าของไต้หวัน และมีผลกระทบโดยตรงต่อการขนส่งทางเรือและทางอากาศ ทางด้านพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ของไต้หวัน ซึ่งเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล กล่าวว่า จีนกำลังดำเนินการซ้อมรบบนเส้นทางเดินเรือและเส้นทางการบินระหว่างประเทศที่พลุกพล่านที่สุด ถือเป็นพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบและผิดกฎหมาย

 

ทั้งนี้ ไต้หวันได้ขอให้เรือขนส่งสินค้าหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น และกำลังอยู่ในระหว่างการหารือกับรัฐบาลญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์เพื่อหาเส้นทางการบินอื่น ๆ  

 

รายงานระบุว่า ญี่ปุ่นยังได้แสดงความกังวลต่อจีนเกี่ยวกับพื้นที่ที่ใช้ในการซ้อมรบครั้งนี้ ซึ่งมีความคาบเกี่ยวกับพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลจีนโต้กลับแทบจะทันทีว่า จีนไม่เคยยอมรับพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะที่ญี่ปุ่นกล่าวถึงอยู่แล้ว

 

ยังมีรายงานวานนี้ (3 ส.ค.) ว่า ทางการจีนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแบ่งแยกดินแดนชาวไต้หวันในมณฑลเจ้อเจียง เนื่องจากต้องสงสัยว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติจีน

 

โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนเปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันพุธ (3 ส.ค.) ว่า การเยือนไต้หวันของนางเพโลซี แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาเป็นฝ่ายยั่วยุ และทำให้จีนตกเป็นเหยื่อ สหรัฐและไต้หวันร่วมกันยั่วยุก่อน ดังนั้น จีนจึงจำเป็นต้องปกป้องตนเอง

 

ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันออกโรงแถลงว่า กิจกรรมทางการทหารของจีนเป็นสิ่งที่ “ไร้เหตุผล” และมีเจตนารมย์ต้องการเปลี่ยนแปลงสถานะของไต้หวัน และทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค “นี่เป็นการจงใจปิดล้อมทั้งทางทะเลและทางอากาศต่อไต้หวัน” โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ พร้อมเปิดเผยว่า

 

เครื่องบินรบจีน (ภาพจากแฟ้มข่าว)

มีเครื่องบินรบของจีน 27 ลำล่วงล้ำเข้าไปในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวันเมื่อวันพุธ (3 ส.ค.) โดยในจำนวนนี้มีทั้งเครื่องบินขับไล่ซู-30 ที่ผลิตโดยรัสเซีย และเครื่องบินขับไล่สเตลธ์ J-20 ที่จีนผลิตเอง นอกจากนี้ จีนยังส่งโดรน 2 ลำบินผ่านนอกชายฝั่งเกาะคินเหมินของไต้หวัน 2 ครั้งเมื่อคืนวันพุธ ทำให้กองทัพไต้หวันต้องจุดพลุเตือนเพื่อขับไล่โดรนดังกล่าวออกไป

 

ด้านกองทัพเรือสหรัฐที่มีกองเรือประจำการอยู่ในภูมิภาคนี้ กำลังจับตาการซ้อมรบของจีนอย่างใกล้ชิด โดยสหรัฐเองได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน “ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน” มาแล่นอยู่ใกล้ ๆ คอยดูลาดเลาในบริเวณทะเลฟิลิปปินส์

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ช่องแคบไต้หวันนั้นเป็นเส้นทางเดินเรือสินค้าที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเรือน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ทั้งนี้ เกือบครึ่งของเรือคอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้าทั้งหมดแล่นผ่านเส้นทางนี้นับตั้งแต่ต้นปีมา