"ไบเดน" ติดโควิดรอบสอง หลังหายป่วยรอบแรกเพียงไม่กี่วัน

01 ส.ค. 2565 | 04:59 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2565 | 13:13 น.
613

แพทย์ทำเนียบขาวเผยผลตรวจปธน.ไบเดน พบติดโควิดรอบสองเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (30 ก.ค.) หลังหายป่วยรอบแรกได้เพียงไม่กี่วัน คาดเป็นแนวโน้มการดีดกลับของการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยกลุ่มเล็ก ๆ ที่รักษาด้วยยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid)

สื่อต่างประเทศรายงานวานนี้ (31 ก.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำ สหรัฐอเมริกา มี ผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกอีกครั้งในช่วงเช้าวันเสาร์ (30 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยนายแพทย์เควิน โอคอนเนอร์ แพทย์ประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวมีแนวโน้มจะเป็นการดีดกลับของการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยกลุ่มเล็ก ๆ ที่รักษาด้วย ยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ทำให้เขาต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวอีกรอบ

 

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ไบเดนไม่แสดงอาการของโรคอีกครั้งแต่อย่างใดและยังรู้สึกค่อนข้างดี ดังนั้น จึงไม่ต้องกลับเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอีก ด้านนายแพทย์โอคอนเนอร์ระบุว่า ปธน.ไบเดน ซึ่งรับการตรวจหาเชื้อรายวันนั้น มีผลตรวจเป็นลบในช่วงค่ำวันอังคาร(26 ก.ค.) เช้าวันพุธ(27 ก.ค.) เช้าวันพฤหัสบดี(28 ก.ค.) และเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่จะกลับมามีผลตรวจเป็นบวกในช่วงเช้าวันเสาร์(30 ก.ค.)

ปธน.ไบเดน ทวีตว่าเขายังรู้สึกสบายดีและยังคงทำงานแม้อยู่ในช่วงกักตัวเมื่อคราวติดโควิดครั้งแรก

นายแพทย์โอคอนเนอร์กล่าวว่า หลังผลตรวจแอนติเจนเป็นลบติดกันหลายครั้ง ปธน.ไบเดนจึงยุติการกักตัวในวันพุธที่ผ่านมา แต่เมื่อพิจารณาถึงผลตรวจที่กลับมาเป็นบวกจากการทดสอบแอนติเจน ปธน.ไบเดนจึงต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวอีกรอบ

สำนักข่าว CNN รายงานถ้อยแถลงของแพทย์ประจำตัวของปธน.ไบเดนว่า  ผู้นำสหรัฐไม่แสดงอาการของโรค แต่เขาจะกักตัวที่ทำเนียบขาว โดยทำเนียบขาวเปิดเผยว่า เขาได้ยกเลิกแผนเดินทางไปยังบ้านของเขาในรัฐเดลาแวร์ และยกเลิกการเดินทางไปรัฐมิชิแกน ซึ่งคาดการณ์กันว่าเขาจะเดินทางไปประกาศความสำเร็จเกี่ยวกับการผ่านกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ในวันอังคารที่ 2 ส.ค.

 

ปธน.ไบเดน โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ประธานาธิบดี ระบุว่า "ทุกท่านครับ วันนี้ผมผลตรวจโควิดเป็นบวกอีกครั้ง โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับคนส่วนน้อย ผมไม่แสดงอาการของโรค แต่ผมจะกักตัวเพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่อยู่ข้างกาย โดยผมจะยังทำงานต่อไป และจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้งเร็ว ๆ นี้"