"โจ ไบเดน" ติดเชื้อโควิดรอบ 2 ในรอบ 10 วัน หลังกินแพ็กซ์โลวิด เพราะอะไร อ่านเลย

01 ส.ค. 2565 | 04:11 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2565 | 06:22 น.
1.6 k

"โจ ไบเดน" ติดเชื้อโควิดรอบ 2 ในรอบ 10 วันหลังกินยาแพ็กซ์โลวิด เพราะอะไร อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉลิมชัยเตือนกักตัว 5 วันไม่น่าจะเพียงพอ

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ค่อนข้างแปลก !! ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ตรวจพบโควิดเป็นครั้งที่ 2 ห่างจากตรวจพบครั้งแรกเพียง 10 วัน

 

มีข่าวล่าสุดจาก Dr. O’Conner แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดี Biden ได้แจ้งอย่างเป็นทางการว่า

 

ประธานาธิบดี Biden กลับมามีผลตรวจโควิดเป็นบวกอีกครั้งหนึ่งในวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2565

 

หลังจากที่ท่านประธานาธิบดี เคยมีผลตรวจโควิดเป็นบวกครั้งแรก เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565

 

ในครั้งนั้น ท่านประธานาธิบดีมีอาการเล็กน้อย แต่เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง อายุมากถึง 79 ปี จึงได้รับยาต้านไวรัสที่ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงคือแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ของบริษัทไฟเซอร์ ติดต่อกัน 5 วัน

โดยท่านประธานาธิบดีได้กักตัวเองเป็นเวลา 5 วัน หลังจากได้รับยาครบแล้ว มีอาการดีขึ้น และเมื่อทำการตรวจก็มีผลเป็นลบ จึงเลิกกักตัวและทำงานตามปกติ

 

โดยแพทย์ประจำตัวยังคงทำการตรวจโควิดท่านประธานาธิบดี แล้วก็พบผลเป็นลบติดต่อกัน 4 วัน ตั้งแต่ 26-29 กรกฎาคม 2565

 

แต่แล้วในวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2565 ผลการตรวจหาไวรัส (Antigen Test) ของประธานาธิบดีก็ออกมาเป็นบวกอีกครั้งหนึ่ง โดยไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด

 

"โจ ไบเดน" ติดเชื้อโควิดรอบ 2 ในรอบ 10 วัน

 

ทำให้แพทย์ต้องสั่งให้ท่านประธานาธิบดีกักตัวอีกเป็นรอบที่ 2 หลังจากที่ได้กักตัวรอบที่ 1 มาแล้ว 5 วัน เมื่อมีผลตรวจเป็นลบจึงออกมาทำงานไปแล้ว

 

กรณีดังกล่าวนี้ สอดคล้องกับการรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ที่พบผู้ป่วยเป็นโควิดและได้รับยา Paxlovid ติดต่อกัน 5 วัน จนผลตรวจเป็นลบ

 

แล้วต่อมาเกิดมีไวรัสเพิ่มจำนวน จนผลตรวจเป็นบวกใหม่อีกครั้งหนึ่ง ที่เรียกว่า “Rebound infection “

เชื่อว่าเกิดจากยาต้านไวรัส ทำงานกำจัดไวรัสได้ไม่ครบ 100% ประกอบกับภูมิคุ้มกันของร่างกายยังขึ้นไม่เต็มที่ ที่จะจัดการไวรัสได้ทั้งหมด จึงทำให้มีการเพิ่มจำนวนขึ้นใหม่

 

เป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในกรณีนี้ แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เพราะยา Paxlovid ต้องถือว่าเป็นยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงมาก (88%) สูงมากกว่ายาต้านไวรัส Molnupiravir เสียด้วยซ้ำ

 

จึงเป็นกรณีเตือนใจใครหลายคน เรื่องการกักตัว 5 วัน โดยได้รับยาต้านไวรัส แล้วออกมาทำงาน คงจะต้องระมัดระวังป้องกัน ไม่ให้ตนเองแพร่เชื้อให้ผู้อื่นต่อไปจนครบ 14 วัน ก็จะเป็นความปลอดภัยสูงสุด