บิตคอยน์ร่วงหลุดแนว 39,000 ดอลล์ หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
ราคาบิตคอยน์ร่วงหลุดจากระดับ 39,000 ดอลลาร์ในช่วงบ่ายวันนี้ (25 เม.ย.) สะท้อนความกังวลของตลาดเงินดิจิทัลหลัง "เฟด" ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.5% เดือนหน้า ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องไหลออกตลาดคริปโตฯ
สื่อต่างประเทศรายงานวันนี้ (25 เม.ย.) ราคาบิตคอยน์ ร่วงหลุดจากระดับ 39,000 ดอลลาร์ในช่วงบ่าย หลังจาก ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่าอาจจะ ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.นี้
ณ เวลา 13.04 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ดิ่งลง 547 ดอลลาร์ หรือ -1.38% แตะที่ 38,992 ดอลลาร์
รายงานข่าวระบุว่า นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่าถึงเวลาแล้วที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกังวลว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลให้สภาพคล่องไหลออกจากตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
นายริยาด คารีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทไคโคกล่าวว่า ราคาบิตคอยน์และตลาดสินทรัพย์เสี่ยงต่างก็ได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ สงครามในยูเครน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่จีนล็อกดาวน์เมืองสำคัญ ๆ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทั่วโลกด้วย
ทางด้านนายไมเคิล โนโวแกรทซ์ ผู้บริหารบริษัทกาแลกซี ดิจิทัล โฮลดิ้งส์ ให้ความเห็นว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา บิตคอยน์พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่น ๆ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เฟดตัดสินใจเสริมสภาพคล่องในตลาดด้วยการคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แต่ขณะนี้ เฟดส่งสัญญาณแล้วว่าจะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงิน จึงทำให้นักลงทุนต้องหันมาประเมินความเสี่ยงกันอีกครั้ง