ตลาดรถ EV คึกคัก ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์ “โซนี่-หัวเว่ย” โดดร่วมสังเวียนแข่งขัน

07 ม.ค. 2565 | 06:40 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ม.ค. 2565 | 22:11 น.
528

ข่าวดีรับปีใหม่คือความคึกคักในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ลูกค้าจะมีทางเลือกมากขึ้น ล่าสุด “โซนี่” ยักษ์ใหญ่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากญี่ปุ่น ประกาศชัดเตรียมจัดตั้งบริษัทลูก “โซนี่ โมบิลิตี อิงค์” ขณะที่ "หัวเว่ย" พร้อมส่งมอบรถไฮบริดรุ่นแรกให้ลูกค้าในเดือนก.พ.นี้

กระแสน้ำขึ้นให้รีบตัก ตลาดรถ EV กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โซนี่ (Sony) ไม่ได้แค่ประกาศแผนการจัดตั้งบริษัทลูก “โซนี่ โมบิลิตี อิงค์” (Sony Mobility Inc.) ในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ เพื่อผลิตรถยนต์ EV และสำรวจความเป็นไปได้ที่จะจำหน่ายรถ EV ในเชิงพาณิชย์ แต่ยังนำรถ EV ต้นแบบเข้าร่วม งาน Consumer Electronics Show (CES) 2022 หรือ งานซีอีเอสประจำปีนี้ ที่นครลาสเวกัสของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอังคาร (4 ม.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำให้ได้เห็นกันเป็นรูปธรรมว่ารถ EV ในแบบฉบับของโซนี่ หน้าตาเป็นอย่างไร

Vision -S ต้นแบบรถ EV ที่โซนี่ภูมิใจนำเสนอ

งานซีอีเอสนั้น ใครๆ ก็รู้ดีว่าเป็นเวทีเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือนวัตกรรมล่าสุดของบรรดาบริษัทในแวดวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี “โซนี่” เอง ร่วมงานนี้มาโดยตลอดในฐานะยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงมาจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรทัศน์สมาร์ททีวี และเกมคอนโซล แต่ในปี 63 โซนี่เริ่มชิมลางเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตมาครั้งหนึ่งแล้ว เป็นรถ EV ต้นแบบรุ่น Vision-S ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติที่ตั้งเป้ายกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่

โซนี่นำรถ EV ต้นแบบเปิดตัวในงาน CES ปีนี้

ดังนั้น การนำรถ EV รุ่น Vision-S 02 มาเปิดตัวในงานซีอีเอสปีนี้ โดยมีนายเคนอิจิโร โยชิดะ ซีอีโอของโซนี่ กรุ๊ป คอร์ป เป็นผู้มาเปิดตัวรถด้วยตัวเอง จึงนับเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า โซนี่เอาจริงที่จะลงมาแข่งขันในสังเวียนยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับประเด็นวาระระดับโลกที่เรียกร้องให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแขนงต่าง ๆ ร่วมกันลดการปล่อยคาร์บอนและบรรดาก๊าซเรือนกระจก (ก๊าซโลกร้อน) สู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งรถ EV นั้นถือว่าตอบโจทย์ประเด็นดังกล่าวได้โดยตรง   

 

นายโยชิดะเปิดเผยว่า “โซนี่ โมบิลิตี” บริษัทลูกที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จะใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนารถ EV ในอนาคต “มนุษย์ยังคงต้องการการเดินทางสัญจร และนี่เป็นโอกาสที่จะตอบสนองต่อความปรารถนาของผู้คนทั้งเพื่อการเดินทางอย่างปลอดภัยและได้รับความบันเทิง”  นอกจากการเปิดตัวรถต้นแบบ Vision-S 02 แล้ว โซนี่ยังภูมิใจนำเสนอรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ต้นแบบของ Vision-S EV ที่ประกอบด้วยลำโพงที่นั่ง (seat speakers) ที่สามารถสร้างเสียงแบบสามมิติในงานปีนี้ด้วย

นวัตกรรมรถ EV ของโซนี่เน้นความปลอดภัย-สะดวกสบาย-ผสานความบันเทิง

โซนี่ได้ทำการทดสอบการขับขี่รถ Vision-S บนถนนสาธารณะในยุโรป และเริ่มต้นทดสอบขับขี่รถยนต์ระบบ 5G เมื่อปีที่แล้ว ถือว่าแผนบุกตลาดรถ EV นั้น ใกล้ความเป็นจริงเข้ามาทุกที

"หัวเว่ย"พร้อมส่งมอบรุ่นแรก ก.พ.นี้

อย่างไรก็ตาม โซนี่ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพียงรายเดียวที่กำลังกระโจนเข้าสู่สังเวียนการแข่งขันที่น่าเย้ายวนใจนี้ เพราะก่อนหน้าโซนี่ ก็มี “หัวเว่ย” (Huawei) บิ๊กบริษัทเทคโนโลยี-ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ประกาศเข้าร่วมชิงส่วนแบ่งตลาดรถ EV และเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดรุ่น Aito M5 ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าผสานระบบเอไอมาก่อนแล้ว

 

ในปี 2564 ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ “หัวเว่ย” ประเดิมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Aito M5 ซึ่งเป็นรถไฮบริด (Plug-In Hybrid: PHEV) ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ HarmonyOS (เป็นระบบปฏิบัติการที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2562) ที่จะยิ่งเพิ่มความฉลาดให้กับรถ เช่น สามารถใช้สมาร์ทวอทช์ของหัวเว่ยเป็นกุญแจรถได้เลย

หัวเว่ยพร้อมส่งมอบ Aito M5 เดือน ก.พ.นี้

แม้หัวเว่ยจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตรถยนต์ขึ้นมาเองโดยตรง แต่ก็มีพันธมิตรร่วมงานเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ เช่น ระบบการขับขี่อัตโนมัติ

 

นายริชาร์ด หยู กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของกลุ่มธุรกิจสินค้าผู้บริโภคของหัวเว่ย เคยให้สัมภาษณ์ในเชิงเปรียบเทียบกับรถ EV ของเทสล่า (Tesla) ซึ่งถือเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งเอาไว้ว่า ราคาของ Aito M5 เริ่มต้นที่ 250,000 หยวน หรือราว 39,063 ดอลลาร์สหรัฐ (1.3 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่ารุ่น Y ของเทสล่าที่เริ่มต้น 280,752 หยวน (ราว 1.4 ล้านบาท)

Aito M5 ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS เพิ่มความสะดวกสบาย

จุดเด่นอีกอย่างคือ Aito M5 ให้กำลังสูงสุดและระยะการขับขี่ที่ดีกว่ารุ่น Y ของ Tesla อย่างไรก็ตาม รถของหัวเว่ยรุ่นนี้ ยังไม่ใช่รถ EV ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะไม่ได้ใช้พลังงานจากไฟฟ้าล้วน ๆ เนื่องจากมีถังเชื้อเพลิงสำหรับเพิ่มระยะการขับขี่เมื่อแบตเตอรี่หมดเอาไว้ด้วย

 

จากแถลงการณ์ของหัวเว่ยนั้น บริษัทจะสามารถส่งมอบรถ Aito M5 คันแรกให้แก่ลูกค้าได้ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ปีนี้ (2565) หรือราว ๆ หลังตรุษจีนนั่นเอง

 

น้ำขึ้นให้รีบตัก ตลาด EV โตตามกระแสรักษ์โลก

ความเคลื่อนไหวทั้งของหัวเว่ยและโซนี่นั้น มีขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์ว่าหุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ หลังจากที่บรรดาบริษัทผู้ผลิตเริ่มทยอยส่งมอบรถยนต์ที่ผลิตได้ให้แก่ลูกค้า ทำให้ค่ายรถยนต์เหล่านี้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ปล่อยให้เทสล่า จากสหรัฐอเมริกาครองตำแหน่งแชมป์ในตลาดรถ EV มาอย่างยาวนาน ขณะที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์แบบที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง หรือรถยนต์แบบดั้งเดิม ก็เร่งรีบตามเข้าสนามแข่งขันในตลาดรถ EV มาติด ๆ เพราะไม่ต้องการตกกระแส เนื่องจากผู้บริโภคมีแนวโน้มไม่ต้องการรถใช้นำมันเชื้อเพลิงที่สร้างมลภาวะทางอากาศ 

 

แน่นอนว่าผู้ครองตลาดรถ EV อันดับ1 ยังเป็นเทสล่า ซึ่งเป็นผู้เล่นหนึ่งเดียวในตลาดที่มีโมเดลธุรกิจของรถ EV อย่างชัดเจน (รายงานข่าวระบุว่า เฉพาะในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว เทสล่าสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดแตะระดับสูงสุดถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)  

 

นอกเหนือจากรถไฟฟ้า 4 รุ่นของเทสล่าในตลาด (ได้แก่ Tesla model 3, Tesla model x, Tesla model s และ Tesla model y) ผู้ซื้อรถยนต์ที่ต้องการใช้รถ EV ต่างมีตัวเลือกมากมายจากค่ายผู้ผลิตรถรายใหญ่ ซึ่งตัวเลือกยอดนิยมนั้น ได้แก่ Chevrolet Bolt, Nissan Leaf, Ford Mustang Mach-E, Mini Cooper SE และ Porsche Taycan โดยมีสนนราคาตั้งแต่คันละราว ๆ 27,000 ดอลลาร์สหรัฐ ถึงมากกว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตั้งแต่ปีนี้ (2565) เป็นต้นไป ตลาดรถ EV จะก้าวไปไกลกว่าเทคโนโลยีและการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว และจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่หลายคนเคยล้มเหลวมาก่อน นั่นคือการผลิตในเชิงพาณิชย์ แม้จะยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยรุมล้อมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการสะดุดขัดในห่วงโซ่อุปทาน ความท้าทายของตลาดแรงงาน ความกดดันด้านเงินเฟ้อ และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นชนิดที่จะทำให้ตลาดร้อนระอุเลยทีเดียว