โอมิครอนอังกฤษ ยอดติดเชื้อรายวันพุ่งเกินแสนเป็นครั้งแรก ปลิดชีพแล้ว 14 ราย

23 ธ.ค. 2564 | 07:59 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ธ.ค. 2564 | 15:29 น.

สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในอังกฤษก้าวสู่ระดับใหม่ ยอดผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วโมงเมื่อวันพุธ (22 ธ.ค.) พุ่งเกินแสนรายเป็นครั้งแรก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 14 ราย อาการหนักต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 129 ราย

เดอะ การ์เดี้ยน สื่อใหญ่ของอังกฤษรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของอังกฤษ ในรอบ 24 ชั่วโมงรายงานเมื่อวันที่22 ธ.ค.ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ โดยเป็นครั้งแรกที่ผู้ติดเชื้อรายวันมีจำนวนสูงกว่าแสนราย คือเพิ่มขึ้น 106,122 ราย เป็นการเพิ่มขึ้นจากยอด 90,629 รายเมื่อวันอังคาร (21 ธ.ค.) ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในอังกฤษทะยานขึ้นสู่ระดับ 11,647,473 ราย นับเป็นอันดับ 4 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา อินเดีย และบราซิล

 

ในวันเดียวกัน สาธารณสุขอังกฤษได้เปิดเผยตัวเลขจำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 สายพันธุ์ “โอมิครอน” มีจำนวนทั้งสิ้น 129 ราย และจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวแล้วทั้งสิ้น 14 รายด้วยกัน

 

เมื่อต้นสัปดาห์นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศว่า เขาจะไม่ออกมาตรการใหม่ ๆ เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 ในอังกฤษก่อนเทศกาลคริสต์มาส แต่ยอมรับว่าสถานการณ์ยังคงสาหัสสากรรจ์อย่างยิ่ง และรัฐบาลอาจมีความจำเป็นต้องดำเนินการบางอย่างหลังจากผ่านพ้นเทศกาลสำคัญนี้ไปแล้ว

ขณะที่สื่อท้องถิ่นอย่างหนังสือพิมพ์เดอะ ซัน รายงานว่า นายจอห์นสัน นายกรัฐมนตรี กำลังเตรียมประกาศภายในเวลา 48 ชั่วโมงข้างหน้าว่ารัฐบาลจะยกระดับมาตรการคุมเข้มเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ โดยเดอะ ซัน ระบุว่า นายจอห์นสันกำลังพิจารณากลับไปใช้มาตรการ  "Step 2" ซึ่งจะทำให้ร้านอาหารและผับให้บริการลูกค้าจากเพียงด้านนอกร้าน แต่จะไม่สามารถให้บริการภายในร้านได้

 

นายจอห์นสันกล่าวในที่ประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อต้นสัปดาห์ว่า รัฐบาลจะยังไม่มีการประกาศมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดครั้งใหม่ แต่จะจับตาดูสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง โดยจะพิจารณาข้อมูลใหม่อย่างรอบด้านเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อ, ผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมทั้งจำนวนผู้เสียชีวิต และรัฐบาลจะไม่ลังเลใจในการใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น หากมีความจำเป็น

 

ทุ่มกว่า 4 หมื่นล้านเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ

พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ที่มีต่อภาคธุรกิจ รัฐบาลอังกฤษได้ตั้งงบกว่า 40,000 ล้านบาทเพื่อการเยียวยาธุรกิจจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว โดย นายริชิ ซูแนค รัฐมนตรีคลังอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณวงเงิน 1 พันล้านปอนด์ (1.3 พันล้านดอลลาร์) หรือราว 44,000 ล้านบาท เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทั้งนี้ เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือธุรกิจจำนวนหลายแสนรายที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา

การประกาศวงเงินช่วยเหลือครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่นายซูแนคได้จัดการประชุมฉุกเฉินกับผู้นำภาคธุรกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อหารือแนวทางเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งภาคธุรกิจได้ร้องเรียนว่าชาวอังกฤษจำนวนมากพากันยกเลิกการจัดงานฉลองคริสต์มาส เนื่องจากวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้กระทบต่อรายได้ของธุรกิจจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจในภาคบริการ

 

สื่ออังกฤษรายงานว่า ภายใต้โครงการช่วยเหลือครั้งนี้ บริษัทในธุรกิจบริการจะได้รับเงินเยียวยาไม่เกินแห่งละ 6,000 ปอนด์ รวมเป็นวงเงินราว 700 ล้านปอนด์ในโครงการดังกล่าว

 

ร่นเวลาบังคับกักตัวคุมโควิดลงเหลือ 7 วัน จากเดิม 10 วัน

แม้ว่า ปัจจุบันอังกฤษจะเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พุ่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริการด้านสุขภาพและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่จนถึงขณะนี้ อังกฤษยังไม่ได้ประกาศคุมเข้มมาตรการควบคุมโควิดในช่วงวันหยุดเหมือนกับหลายประเทศในยุโรป

 

ล่าสุดวานนี้ (22 ธ.ค.) รัฐบาลอังกฤษได้ลดระยะเวลาบังคับประชาชนกักตัวเองเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 จาก 10 วัน ลงเหลือ 7 วัน หากผลตรวจเชื้อออกมาเป็นลบ 2 วันติดต่อกัน

 

นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขของอังกฤษประกาศเมื่อวันพุธ (22 ธ.ค.)ว่า เพื่อลดภาวะชะงักงัน และปฏิบัติตามคำแนะนำทางคลินิกของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นลบในวันที่ 6 และ 7 ของการกักตัว จะได้รับอนุญาตให้ยุติการกักตัวได้