สหรัฐอนุมัติฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของไฟเซอร์ ให้กลุ่มอายุ 16-17 ปี
FDA สหรัฐอนุมัติการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ของไฟเซอร์-บิออนเทคในวันนี้ (10 ธ.ค.) สำหรับเด็กที่มีอายุ 16-17 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ปรับเปลี่ยนการอนุมัติ วัคซีนเข็มกระตุ้น ของไฟเซอร์ให้ครอบคลุมการฉีดได้ถึงเยาวชนกลุ่มอายุ 16-17 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ ไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน โดยระบุว่า เด็กที่มีอายุ 16-17 ปี สามารถได้รับการฉีด วัคซีนเข็มที่ 3 ของไฟเซอร์-บิออนเทค หลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วอย่างน้อย 6 เดือน
อย่างไรก็ดี ในขั้นตอนต่อไป ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) จำเป็นต้องให้การอนุมัติการฉีดวัคซีนดังกล่าว ก่อนที่จะมีการดำเนินการฉีดจริง
สถิติชี้ว่าในขณะนี้ เด็กที่มีอายุ 16-17 ปีจำนวนราว 4.7 ล้านคนในสหรัฐ ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และมากกว่า 2.5 ล้านคนได้ฉีดเข็มที่ 2 มานานกว่า 6 เดือนแล้ว
ข่าวระบุว่า การขยายการอนุมัติวัคซีนเข็มกระตุ้นของไฟเซอร์-บิออนเทค ให้ครอบคลุมการฉีดได้ถึงเยาวชนกลุ่มอายุ 16-17 ปีนั้นเป็นไปตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ที่แนะให้ใช้วัคซีนดังกล่าวในกลุ่มอายุนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ไฟเซอร์เป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิชนิดแรกที่ได้รับอนุมัติใช้งานในกลุ่มอายุดังกล่าว
ทั้งนี้ เยาวชนของสหรัฐประมาณ 2,600,000 คน จะสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นได้เพิ่มเติม จากเดิมที่มีผู้ใหญ่เข้าเกณฑ์รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอยู่แล้ว 141 ล้านคน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) บริษัทไฟเซอร์เปิดเผยข้อมูลการทดสอบเบื้องต้น ว่าการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็มอาจมีภูมิคุ้มกันสำหรับรับมือสายพันธุ์โอมิครอนไม่เพียงพอ แม้จะยังป้องกันอาการป่วยหนักได้ แต่การฉีดวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเป็นเข็มที่ 3 จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอนให้เพิ่มขึ้นถึงระดับเดียวกับการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดิม ๆ ได้
ขณะที่ล่าสุดชาวอเมริกันประมาณ 50 ล้านคน ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแรกได้ทยอยเข้าฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว หรือคิดเป็นร้อยละ 26.9
หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ของไฟเซอร์ ระบุว่า ในอนาคตเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือหันมาใช้วัคซีนชนิดที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรับมือไวรัสโควิด-19 แต่ละสายพันธุ์ ซึ่งการฉีดวัคซีนชนิดเดิมสำหรับกระตุ้นภูมิเป็นเข็มที่ 3 ไปก่อนในขณะนี้อาจถือเป็นการซื้อเวลาสำหรับการพัฒนาวัคซีนเฉพาะเพื่อต่อกรกับไวรัสกลายพันธุ์
ทั้งนี้ ไฟเซอร์คาดว่าจะพัฒนาวัคซีนสำหรับโอมิครอนสำเร็จในเดือน มี.ค. 2565