IMF ออกโรงเตือน ไม่ควรใช้บิตคอยน์ชำระหนี้ตามกฎหมาย

23 พ.ย. 2564 | 14:37 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ย. 2564 | 21:50 น.

“ไอเอ็มเอฟ” แนะรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ เลี่ยงใช้บิตคอยน์ชำระหนี้ตามกฎหมาย เหตุจากราคาผันผวนสูง จะสร้างความเสี่ยงในแง่การให้ความคุ้มครองผู้บริโภค ความโปร่งใส และเสถียรภาพทางการเงิน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุถึงความเสี่ยงในการใช้ สกุลเงินบิตคอยน์ โดยแนะนำให้ ประเทศเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศในอเมริกากลางที่รัฐบาลสนับสนุนการใช้เงินบิตคอยน์อย่างแพร่หลาย หลีกเลี่ยงการใช้สกุลเงินดังกล่าวในการชำระหนี้ตามกฎหมาย

 

ทั้งนี้ IMF ให้เหตุผลว่า เนื่องจากราคาของบิตคอยน์มีความผันผวนสูง ดังนั้น การกำหนดให้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายจึงสร้างความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ความโปร่งใส และเสถียรภาพทางการเงิน อีกทั้งยังเพิ่มภาระหนี้สินทางการคลังที่อาจเกิดขึ้นด้วย

 

 IMF เปิดเผยในแถลงการณ์สรุปของรายงานหัวข้อ 2021 Article IV Mission to El Salvador ว่า จากความเสี่ยงดังกล่าว รัฐบาลจึงไม่ควรให้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ของ IMF แนะนำว่า ควรจำกัดขอบเขตของกฎหมายบิตคอยน์ให้แคบลง และเรียกร้องให้ดำเนินการวางกฎระเบียบ และตรวจสอบระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่นี้อย่างรัดกุม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศรับรองบิตคอยน์เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการเช่นเดียวกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ล่าสุด ผู้นำเอลซัลวาดอร์ยังประกาศเปิดตัวโครงการ “บิตคอยน์ซิตี้” (Bitcoin City) เป็นการสร้างเมืองใหม่ที่มีอีโอซิสเต็มสนับสนุนการใช้บิตคอยน์ทุกรูปแบบ โดยรัฐบาลเอลซัลวาดอร์จะออกพันธบัตรบิตคอยน์ระดมทุนเพื่อการนี้ ข่าวระบุว่า เมืองใหม่ดังกล่าวจะใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานความร้อนภูเขาไฟซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองด้วย (อ่านเพิ่มเติม: เอลซัลวาดอร์เล็งสร้างเมืองบิตคอยน์ เตรียมออกพันธบัตรบิตคอยน์ระดมทุนหนุน)

ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล ของเอลซัลวาดอร์ ในงานเปิดโครงการ "บิตคอยน์ซิตี้"

ทางด้าน ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล ของเอลซัลวาดอร์ ได้สนับสนุนการใช้บิตคอยน์ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยม โดยระบุถึงศักยภาพของสกุลเงินนี้ ที่เอื้อให้ชาวเอลซัลวาดอร์ในต่างแดน สามารถส่งเงินกลับประเทศ ขณะเดียวกันยังระบุด้วยว่า เอลซัลวาดอร์จะยังคงใช้สกุลเงินดอลลาร์ต่อไป แม้ว่าจะสนับสนุนการใช้เงินบิตคอยน์ควบคู่ไปด้วยก็ตาม

 

นอกจากนี้ ปธน.บูเคเลยังกล่าวว่า การใช้เงินบิตคอยน์จะเปิดทางไปสู่การเข้าถึงบริการทางการเงินและการลงทุน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนา

ขณะเดียวกัน IMF ประมาณการว่า เศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์จะขยายตัว 10% ในปี 2564 และ 3.2% ในปี 2565 รวมทั้งคาดการณ์ว่า ณ สิ้นปี 2564 หนี้สาธารณะจะแตะที่ 85% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

 

ข้อมูลอ้างอิง

IMF recommends El Salvador not use bitcoin as legal tender