เปิดผลวิจัยโมเดอร์นา "ฉีดครบโดส กันโควิดกลายพันธุ์ได้ 6 เดือน"

08 พ.ย. 2564 | 07:41 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2564 | 15:04 น.
1.6 k

“โมเดอร์นา”  เผยผลวิจัยกรณีฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม “จะสามารถป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล (VOCs) ได้ 6 เดือน”

เว็บไซต์ของ โมเดอร์นา (Moderna) บริษัทผู้ผลิตเวชภัณฑ์สัญชาติอเมริกันเผยแพร่วานนี้ (7 พ.ย.) รายงานข้อมูลผลงานวิจัยฉบับใหม่ที่แสดงให้เห็นถึง ประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์นา ที่มีต่อการคงระดับอยู่ของ ระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดี ประเภทยับยั้งเชื้อต่อ เชื้อไวรัสโควิดในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล (VOCs) โดยต้นฉบับที่แสดงข้อมูลผลงานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Science

 

จากรายงานพบว่า ในบุคคลส่วนใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา มีระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดีทั้งประเภทจับกับแอนติเจนของเชื้อโควิดและภูมิคุ้มกันแอนติบอดีประเภทที่ทำหน้าที่ยับยั้งเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่างๆ คงอยู่ได้นานเป็นเวลา 6 เดือน นับจากเวลาที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2

 

นายสเตฟาน แบนเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโมเดอร์นา กล่าวว่า "เรามีความพึงพอใจกับข้อมูลงานศึกษาวิจัยใหม่เหล่านี้ ที่แสดงให้เห็นว่า ในคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ครบ 2 เข็ม มีระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดีที่คงอยู่ต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งภูมิคุ้มกันแอนติบอดีต่อเชื้อโควิดดังกล่าวยังรวมไปถึงเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาอีกด้วย”

 

เปิดผลวิจัยโมเดอร์นา \"ฉีดครบโดส กันโควิดกลายพันธุ์ได้ 6 เดือน\"

ซีอีโอของโมเดอร์นาระบุว่า บริษัทและพันธมิตรยังคงมุ่งมั่นในการศึกษาวิจัยเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลในด้านต่างๆของวัคซีนโมเดอร์นา และจะได้ทำการเปิดเผยแบ่งปันถึงข้อมูลร่วมกันหากมีข้อมูลใหม่ๆเกิดขึ้น

 

นอกจากนี้แล้ว ข้อมูลเหล่านี้ยังเป็นการสนับสนุนถึงประสิทธิภาพที่ทนทานในระดับ 93% ของวัคซีนโมเดอร์นา ตลอดระยะเวลา 6 เดือน คาดว่าข้อมูลเหล่านี้และการเพิ่มขึ้นของข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของวัคซีนเมื่อถูกนำมาใช้จริง จะเป็นการช่วยหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านสุขภาพในการกำหนดแนวทางทั้งในด้านวิธีการและเวลาที่เหมาะสมสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

 

การศึกษาฉบับนี้มีการใช้วิธีวิเคราะห์ที่หลากหลายและแสดงให้เห็นว่า “หลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาครบ 2 เข็ม ร่างกายมีการผลิตภูมิคุ้มกันแอนติบอดีทั้งประเภทที่จับกับแอนติเจนของเชื้อโควิดและประเภทยับยั้งเชื้อโควิด ทั้งต่อเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม รวมไปถึงเชื้อโควิดสายพันธุ์ที่น่ากังวล (VOCs) อันได้แก่ อัลฟา (Alpha), เบตา (Beta), แกมมา (Gamma), เดลตา (Delta), เอปซิลอน (Epsilon) และไอโอต้า (Iota) แม้ว่าจะมีการลดระดับลงของภูมิคุ้มกันแอนติบอดีเมื่อเวลาผ่านไป แต่ก็พบว่าอาสาสมัครผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนใหญ่มีระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดีที่ยังอยู่ในระดับที่ตรวจวัดได้แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 6 เดือน ภายหลังจากการฉีดวัคซีนครบก็ตาม”

เปิดผลวิจัยโมเดอร์นา \"ฉีดครบโดส กันโควิดกลายพันธุ์ได้ 6 เดือน\"

แนวโน้มที่แสดงให้เห็นว่าระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดีต่อเชื้อโควิดกลายพันธุ์มีการลดต่ำลงนั้น พบในกลุ่มบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนมานานแล้ว กล่าวคือ ได้รับการฉีดวัคซีนผ่านมาแล้วเป็นเวลา 209 วัน (เกิน 6 เดือน) ซึ่งความแตกต่างดังกล่าวนั้นมีน้อย และมีการทับซ้อนกันระหว่างกลุ่มอายุในกลุ่มตัวอย่างที่ทำการศึกษา แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ บุคคลจำนวนมากในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนผ่านมานานแล้วยังคงมีระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดีประเภทยับยั้งเชื้อต่อเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่างๆภายหลังจากที่ได้รับวัคซีนเข็มที่สองผ่านมานานแล้ว 6 เดือน

 

ข้อมูลจากงานวิจัยฉบับนี้ยังเป็นการสนับสนุนข้อมูลจากรายงานฉบับอื่นๆที่ได้มาจากการเฝ้าสังเกตการณ์ถึงประสิทธิผลจากการใช้งานจริงของวัคซีนที่แสดงให้เห็นว่า วัคซีนโมเดอร์นามีประสิทธิภาพทางคลินิกที่มีความคงทนยาวนาน

 

นอกจากนี้แล้ว วัคซีนโมเดอร์นายังแสดงประสิทธิผลในสภาวการณ์ที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์เดลตา รวมไปถึงประสิทธิผลของวัคซีนโมเดอร์นาที่มีต่อกลุ่มประชากรที่มีความยากต่อการรักษา เช่น กลุ่มของประชากรที่อาศัยอยู่ในสถานดูแลระยะยาวหรือผู้ป่วยมะเร็ง

 

ข้อมูลอ้างอิง

Antibody Persistence through 6 Months after the Second Dose of mRNA-1273 Vaccine for Covid-19