"เยลเลน" วอนคองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ภาครัฐ ก่อนเศรษฐกิจสหรัฐจะเสี่ยงถดถอย

21 ก.ย. 2564 | 01:01 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ย. 2564 | 08:10 น.

รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะพลิกผันจากฟื้นตัวไปเป็นถดถอย หากสภาคองเกรสไม่รีบปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาล

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เปิดเผยกับ หนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ว่า สภาคองเกรสได้ ปรับเพิ่มหรือยกเลิกเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ มาประมาณ 80 ครั้งแล้วนับตั้งแต่ปี 2503 เป็นต้นมา และขณะนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่สภาคองเกรสต้องดำเนินการดังกล่าวอีกครั้ง

 

เพราะไม่เช่นนั้น ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ กระทรวงการคลังจะขาดดุลเงินสด และรัฐบาลจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ นอกจากนี้ นางเยลเลนยังย้ำว่า หากไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้จะทำให้เกิด "หายนะทางเศรษฐกิจในวงกว้าง"

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ

"ภายในไม่กี่วัน ชาวอเมริกันหลายล้านคนอาจขาดแคลนเงินสด เราจะได้เห็นการเลื่อนชำระเงินสำคัญ ๆ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ผู้สูงอายุเกือบ 50 ล้านคนอาจไม่ได้เช็คประกันสังคมไปช่วงหนึ่ง ข้าราชการทหารก็อาจไม่ได้รับค่าจ้าง" นางเยลเลนกล่าวเตือน

นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า หากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ ก็อาจผลักดันให้เกิดวิกฤตการเงินครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจจากเดิมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่แล้วจากวิกฤตด้านสาธารณสุข

 

"การผิดนัดชำระหนี้อาจกระตุ้นให้อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น ราคาหุ้นร่วงลงหนัก และเกิดความปั่นป่วนทางการเงิน เศรษฐกิจของเราในปัจจุบันจะพลิกผันจากการฟื้นตัวกลายเป็นถดถอย การเติบโตมูลค่านับพันล้านดอลลาร์และงานนับล้านตำแหน่งจะสูญสิ้น และจะทำให้สหรัฐกลายเป็นชาติที่อ่อนแอลงโดยถาวร"

 

นางเยลเลนกล่าวย้ำเตือนในตอนท้ายว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนนัด หรือผิดนัดชำระหนี้ ก็ไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ ช่วง 17 เดือนที่ผ่านมานี้ สหรัฐได้ผ่านบททดสอบความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจมาแล้ว และขณะนี้ ก็เพิ่งออกจากวิฤตมาได้ ดังนั้น สหรัฐต้องไม่กลับไปจมปลักในวิกฤตที่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีก