สภาสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศถอด สหรัฐอเมริกา ออกจาก รายชื่อประเทศที่ปลอดภัยด้านการเดินทาง เนื่องจากจำนวน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐ ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากสหรัฐแล้ว อียูยังได้ถอดอิสราเอล เลบานอน มอนเตเนโกร มาซิโดเนียเหนือ และโคโซโว ออกจากรายชื่อประเทศและเขตแดนที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทางโดยไม่มีเหตุจำเป็นด้วย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเมื่อช่วงเดือนมิ.ย. ที่อียูกำหนดให้สหรัฐอยู่ในกลุ่มประเทศปลอดภัยก่อนจะเข้าช่วงเทศกาลวันหยุดฤดูร้อน
ทั้งนี้ อียูได้ออกแถลงการณ์แนะนำให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมี 27 ประเทศ จำกัดการเดินทางของผู้ที่มาจากสหรัฐ เนื่องจากในสหรัฐมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ถึง 977,947 ราย และผู้เสียชีวิต 7,394 ราย ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เป็นจำนวนที่สูงที่สุดในโลก
คำแนะนำดังกล่าวไม่มีผลผูกมัดใดๆ แต่ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศและเขตแดนเหล่านี้อาจถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้น รวมถึงมีข้อจำกัดมากขึ้นเมื่อเดินทางมายังยุโรป เช่น ต้องถูกบังคับให้กักตัว
"คำแนะนำนี้ไม่ส่งผลต่อการที่ประเทศสมาชิกยกเว้นข้อจำกัดให้ผู้ที่เดินทางโดยไม่มีเหตุจำเป็น ในกรณีที่ผู้ที่เดินทางนั้นฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว" แถลงการณ์ระบุ
สำหรับรายชื่อประเทศปลอดภัยล่าสุดที่กำหนดโดยอียู ได้แก่ แอลเบเนีย, อาร์เมเนีย, ออสเตรเลีย, อาเซอร์ไบจาน, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บรูไน, แคนาดา, ญี่ปุ่น, จอร์แดน, นิวซีแลนด์, กาตาร์, มอลโดวา, ซาอุดีอาระเบีย, เซอร์เบีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ยูเครน และจีน (ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่า จีนจะอนุญาตให้ผู้ที่มาจากอียูเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่มีข้อจำกัดหรือไม่)