ครม.ญี่ปุ่นอนุมัติงบสำรอง 1.3 หมื่นล้านดอลล์ จัดซื้อวัคซีน-ยาต้านโควิด

27 ส.ค. 2564 | 14:03 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ส.ค. 2564 | 21:17 น.

คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีมติในวันนี้ (27 ส.ค.) ที่จะใช้เงิน 1.4 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนสำรองปีงบประมาณ 2564 เพื่อสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มเติม รวมถึงการจัดหายาสำหรับผู้ป่วยโควิด

สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่น ได้ จัดสรรงบประมาณ 8.415 แสนล้านเยน เพื่อจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมและส่งเสริมการฉีดวัคซีน ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังรับมือกับ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่สามารถแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วมากขึ้นเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม

 

นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นแถลงต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 2.352 แสนล้านเยนเพื่อจัดซื้อยา คาซิริวิแมบ (Casirivimab) และ อิมเดวิแมบ (Imdevimab) เพื่อฉีดให้แก่ผู้ป่วยโควิดผ่านทางหลอดเลือดในการรักษาโดยใช้ยาแอนติบอดีแบบผสมหรือแอนติบอดีค็อกเทล (Antibody cocktail) ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ติดเชื้อในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิต

 

มาตรการด้านงบประมาณนี้ มีขึ้น 2 วันหลังจากนายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลจะเร่งดำเนินการตอบสนองต่อประเด็นเร่งด่วน เช่น การจัดหาวัคซีนและยาให้เพียงพอสำหรับการรักษาด้วยวิธีแอนติบอดีค็อกเทล โดยการนำเงินทุนสำรองมาใช้เพื่อการนี้

 

นายซูงะยังระบุด้วยว่า ญี่ปุ่นซึ่งดำเนินการฉีดวัคซีนล่าช้าเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเทศ ได้ตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิ์ได้ก่อนกำหนดในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.นี้

พร้อมเร่งอัตราฉีดเต็มที่หลังได้งบสนับสนุน

สำหรับสถานการณ์โควิดล่าสุดในญี่ปุ่นนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่งประกาศขยายภาวะฉุกเฉินเพิ่มเติมจากเดิมที่บังคับใช้กับกรุงโตเกียวและพื้นที่อื่น ๆ อีก 12 เขต ให้มีผลครอบคลุมเพิ่มเติมอีก 8 จังหวัด เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนัก

 

โดย 8 จังหวัดดังกล่าวได้แก่ ฮอกไกโด ,มิยากิ, กิฟุ ,ไอจิ , มิเอะ, ชิกะ ,โอกายามะ และฮิโรชิมะ เริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้ (27 ส.ค.) ไปจนถึง 12 ก.ย. ซึ่งภายใต้ภาวะฉุกเฉินนั้น ร้านอาหารจะงดเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-งดให้บริการคาราโอเกะ และต้องปิดร้านก่อน 20.00 น. ส่วนห้างสรรพสินค้าแม้สามารถเปิดให้บริการ แต่ก็ต้องจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการอย่างเคร่งครัด