รู้จัก "HGCO19" วัคซีนโควิด mRNA ตัวแรกของอินเดีย

25 ส.ค. 2564 | 03:00 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ส.ค. 2564 | 19:03 น.

อินเดียคืบหน้าพัฒนาวัคซีน mRNA ตัวแรกของประเทศ ทดลองเฟสแรกผ่านฉลุยได้ความปลอดภัย-กระตุ้นภูมิต้านทาน  เดือนหน้าทดลองเฟส 2-3

องค์การควบคุมยาแห่งอินเดีย (DCGI) ประกาศอนุมัติให้มี การทดลองเฟสที่ 2 และ 3 สำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ภายใต้ชื่อ วัคซีน"HGCO19" ซึ่งเป็นวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ mRNA พัฒนาขึ้นในอินเดียโดย บริษัท เจนโนวา ไบโอฟาร์มาซูติคัลส์ (Gennova Biopharmaceuticals) ร่วมกับกรมเทคโนโลยีชีวภาพ และสภาช่วยเหลือการวิจัยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ (BIRAC) แห่งชาติอินเดีย

 

ผลการทดลองขั้นแรกน่าพอใจ 

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของอินเดียระบุว่า บริษัท เจนโนวา ไบโอฟาร์มาซูติคัลส์ ได้รายงานผลการทดลองทางคลินิกเบื้องต้นในเฟสที่ 1 ต่อองค์กรควบคุมมาตรฐานยาส่วนกลาง (CDSCO) แล้ว โดยคณะกรรมการผู้พิจารณาข้อมูลเปิดเผยว่า จากการทดลองในเฟสที่ 1 พบว่าวัคซีน HGCO19 มีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง และสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายผู้ที่ได้รับวัคซีน

เรนู สวารุป เลขานุการกรมเทคโนโลยีชีวภาพกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าภูมิใจอย่างยิ่งที่วัคซีน mRNA ตัวแรกของอินเดียมีผลทดลองออกมายืนยันว่าปลอดภัย

 

"เรามั่นใจว่าวัคซีนนี้จะกลายเป็นวัคซีนสำคัญสำหรับทั้งอินเดียและประเทศอื่นๆ เรื่องนี้จึงนับว่าเป็นหมุดหมายครั้งสำคัญในพันธกิจพัฒนาวัคซีนภายในประเทศของเรา ซึ่งจะช่วยให้อินเดียก้าวสู่เวทีโลกในฐานะผู้พัฒนาวัคซีนรายใหม่ได้"

รู้จัก \"HGCO19\" วัคซีนโควิด mRNA ตัวแรกของอินเดีย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจนโนวาฯ เป็นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนไม่กี่รายในโลก ซึ่งรวมถึงโมเดอร์นา และไฟเซอร์ ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 เทคโนโลยีดังกล่าวไม่ได้ใช้เชื้อตายของไวรัสมากระตุ้นการสร้างภูมิต้านทานในร่างกาย แต่ใช้วิธีกระตุ้นร่างกายมนุษย์ให้ผลิตโปรตีนตัวหนึ่งขึ้นมาเพื่อสร้างภูมิต้านทานไวรัสแทน

เดินหน้าทดลองขั้นที่สองต้นกันยายน

เจนโนวาฯ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (24 ส.ค.) ว่าการทดลอง วัคซีน HGCO19 กับอาสาสมัครในขั้นที่สองจะเริ่มขึ้นต้นเดือนก.ย.ในสถานีทดลองประมาณ 10-15 แห่งในอินเดีย ส่วนการทดลองขั้นที่สามจะมีขึ้นในสถานีทดลอง 22-27 แห่งภายในประเทศอินเดีย    

 

นักวิเคราะห์มองว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตื่นเต้นกับความสำเร็จในการทดลองขั้นต้น เพราะคงต้องรอจนกว่าการทดลองขั้นที่สามจะเสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้ คาดว่าวัคซีน HGCO19 ซึ่งหากประสบความสำเร็จในการทดลองอย่างราบรื่นด้วยดี จะสามารถวางตลาดในช่วงเวลาที่อินเดียได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกเป็นอย่างน้อย ให้กับประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศแล้ว

 

ปัจจุบัน อินเดียอนุมัติวัคซีนที่ผลิตในประเทศโดยบริษัทของอินเดียเองสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินแล้ว 2 ตัว คือ วัคซีนของบริษัทภารัต ไบโอเทค (Bharat Biotech) และวัคซีนของบริษัท ไซดัส คาดิลา (Zydus Cadila) แต่ทั้งคู่ก็ไม่ใช่วัคซีนชนิด mRNA