เหตุผลที่การ์ดต้องไม่ตก : ถึงฉีดวัคซีนแล้วมีโอกาสติดโควิดสายพันธุ์เดลตา

13 ก.ค. 2564 | 09:59 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ค. 2564 | 20:17 น.

นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลกย้ำผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วนั้นยังคงมีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา แต่จะลดโอกาสป่วยหนักหรือเสียชีวิต

หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ผู้ที่ได้รับ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วนั้นยังคงมีโอกาสที่จะติด เชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา” แต่วัคซีนจะช่วยให้คนส่วนใหญ่ไม่ป่วยหนักหรือเสียชีวิตเพราะโควิด

 

ดร.ซูมยา สวามินาทาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ WHO กล่าวเมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) ว่า มีรายงานเกี่ยวกับกรณีผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว แต่ยังเกิดการติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์เดลตา ที่ตรวจพบครั้งแรกในประเทศอินเดียและขณะนี้เป็นสายพันธุ์หลัก หรือ “ใกล้จะ” เป็นสายพันธุ์หลัก ในหมู่ผู้ติดเชื้อใหม่ในหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการติดเชื้อแบบไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการ

เหตุผลที่การ์ดต้องไม่ตก : ถึงฉีดวัคซีนแล้วมีโอกาสติดโควิดสายพันธุ์เดลตา ดร.ซูมยา สวามินาทาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ WHO

 

ทั้งนี้ ประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ และสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดหนักนั้น มีอัตราผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงขึ้น โดยในสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ติดเชื้อโควิดจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตนั้น แทบจะทั้งหมดเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

 

ส่วนการติดเชื้อโควิดภายหลังการฉีดวัคซีนแล้วนั้น ผู้เชี่ยวชาญของ WHO กล่าวว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐที่เปิดเผยว่า ประมาณ 75% ของผู้ที่ติดเชื้อโควิดหลังฉีดวัคซีนจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตนั้น เป็นผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี

เหตุผลที่การ์ดต้องไม่ตก : ถึงฉีดวัคซีนแล้วมีโอกาสติดโควิดสายพันธุ์เดลตา

ดร.ซูมยา เตือนในตอนท้ายว่า ผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว ยังคงมีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิดซ้ำและแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ ดังนั้น WHO จึงยังคงขอให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะทางสังคมต่อไป แต่การฉีดวัคซีนก็ยังคงมีประโยชน์ เพราะช่วยลดโอกาสที่จะป่วยหนักหรือเสียชีวิตลงได้