อานิสงส์ค่าเงินบาทแข็ง ดันหุ้นคอมเซเว่นขึ้นแชมป์ 'ผลตอบแทนสูงที่สุดในโลก'

22 ส.ค. 2562 | 11:11 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ส.ค. 2562 | 19:07 น.
2.4 k

อานิสงส์จากการแข็งค่าของเงินบาททำให้ ‘คอมเซเว่น’ ผู้แทนจำหน่ายโทรศัพท์ไอโฟน สมาร์ทโฟนของซัมซุงและอีกหลายแบรนด์ดังในไทย มีผลประกอบการสุดว้าว ขึ้นแท่นแชมป์หุ้นผู้ค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงที่สุดในโลก

 

บทความ Asia’s Top Currency Helps Thai iPhone Retailer Lead the World ของบลูมเบิร์กเผยว่า แม้ว่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่าขึ้นมากจะส่งผลกระทบทางลบต่อภาคการส่งออก แต่สำหรับ ‘คอมเซเว่น’ หรือบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าปลีกสินค้าคอนซูมเมอร์อิเล็กทรอนิกรายใหญ่ที่สุดของไทย บริษัทกำลังได้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของค่าเงินบาทที่ทำให้สินค้านำเข้าอย่างโทรศัพท์ไอโฟนและซัมซุงมีราคาถูกลง

ภาพข่าวบลูมเบิร์ก

อัตราผลตอบแทนของหุ้นคอมเซเว่น (COM7) ในตลาดหลักทรัพย์ของไทยตั้งแต่ต้นปีนี้มาจนถึงวันที่ 19 ส.ค.2562 อยู่ที่ระดับ 72% ถือเป็นหุ้นในกลุ่มผู้ค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิสก์ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในโลกในกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าตลาดอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไป  จากการรวบรวมข้อมูลของสำนักข่าวบลูมเบิร์กพบว่า ผลกำไรของคอมเซเว่น ทำสถิติสูงสุดในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ และยังจะมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อไปตลอดจนถึงสิ้นปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นอานิสงส์จากค่าเงินบาท นายปรเมศร์ ทองบัว นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงเปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นผลดีต่อแนวโน้มผลกำไรของคอมเซเว่น เนื่องจากบริษัทมีแบรนด์สินค้าและเครือข่ายร้านค้าที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทย

อานิสงส์ค่าเงินบาทแข็ง ดันหุ้นคอมเซเว่นขึ้นแชมป์ \'ผลตอบแทนสูงที่สุดในโลก\'

ทั้งนี้ คอมเซเว่นเป็นผู้ดำเนินการร้านบานาน่าสโตร์และสตูดิโอเซเว่น จำหน่ายสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตโดยแบรนด์ชั้นนำอย่างแอปเปิ้ล อิงค์, ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และหัวเว่ย เทคโนโลยีส์  นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ. คอมเซเว่น เปิดเผยว่ากำลังหารือกับบริษัทแบรนด์ดังเหล่านี้เกี่ยวกับแผนที่ว่าจะปรับลดราคาสินค้าลงมาหลังจากที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้น “ผลกำไรของเราเติบโตขึ้นมากในไตรมาส2 จากราคานำเข้าสินค้าที่ถูกลงและเริ่มจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลที่มีการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุดของปี”

 

ในปีนี้ค่าเงินบาทแข็งขึ้นมาแล้วประมาณ 5.5% นับเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุด หรือเป็น best performance ในของบรรดาสกุลเงินหลักๆของเอเชีย จากการรวบรวมข้อมูลของบลูมเบิร์กพบว่า  รายได้สุทธิของคอมเซเว่นในไตรมาสเดือนเม.ย.ถึงมิ.ย. โตขึ้นถึง 36% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สู่ระดับ 294 ล้านบาท นับเป็นรายได้รายไตรมาสที่เพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่ที่บริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2558  

 

อย่างไรก็ตามเงินบาทที่แข็งขึ้นเปรียบเหมือนเหรียญสองหน้า เพราะนอกจากภาคส่วนที่ได้รับประโยชน์แล้ว ก็มีบางส่วนที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในไตรมาส2 ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบๆ 5 ปี เนื่องจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเชิงลบกระหน่ำทั้งจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯและค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น