"ยึดกาซา" วาทกรรมอันตราย ทรัมป์ป่วนตะวันออกกลาง

07 ก.พ. 2568 | 16:24 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2568 | 16:39 น.
640

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ "ยึดกาซา" ผู้เชี่ยวชาญชี้ เป็นวาทกรรมอันตราย แม้เป็นเพียงคำขู่แต่สร้างความตึงเครียดให้สถานการณ์ในตะวันออกกลาง กระทบยังความสัมพันธ์อิสราเอลกับชาติอาหรับ

ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลาง การประกาศ "จะยึดกาซา" ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่เพียงสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาคมโลก แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มนโยบายที่น่ากังวลต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ได้วิเคราะห์ผ่านรายการ "เข้าเรื่อง" ของยูทูปฐานเศรษฐกิจว่า สิ่งที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะยึดดินแดนฉนวนกาซานั้น ไม่น่าจะลงมือทำจริง แต่เป็นการดำเนินนโยบายแบบตั้งความต้องการเอาไว้สูง เพื่อเป็นการสร้างอำนาจการต่อรองให้แก่ตนเอง เช่นเดียวกับการขู่ว่าจะยึดคลองปานามา หรือการซื้อกรีนแลนด์เป็นต้น

หากย้อนกลับไปในสมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก เขาได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยการย้ายสถานทูตสหรัฐฯ จากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเลม ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงออสโล ที่กำหนดให้สถานะของเยรูซาเลมต้องได้รับการเจรจาระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ การประกาศจะยึดกาซาในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะสอดคล้องกับแนวทางการสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ของทรัมป์

รศ.ดร.สมชายวิเคราะห์ว่า การประกาศยึดกาซาของทรัมป์มีนัยสำคัญ 3ประการ ประการแรก เป็นการส่งสัญญาณว่าแนวทางการแก้ปัญหาแบบ "สองรัฐ" (Two-State Solution) อาจเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ประการที่สอง เป็นการสนับสนุนแนวคิดของกลุ่มขวาจัดในอิสราเอลที่ต้องการขยายการควบคุมในพื้นที่ต่างๆ และประการที่สาม เป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการสร้างสันติภาพที่ผ่านมาทั้งหมด

แม้ถ้อยแถลงของทรัมป์จะดูเหมือนเป็นเพียงการขู่ แต่เบื้องหลังวาทกรรมนี้แฝงไว้ด้วยนัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และคือสัญญาณชัดเจนของการใช้นโยบายแข็งกร้าวในตะวันออกกลาง ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิภาค ที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือ การประกาศเช่นนี้อาจเป็นการเปิดทางให้มีการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่ ซึ่งจะยิ่งสร้างความขัดแย้งและความรุนแรงในภูมิภาค

เกิดผลกระทบยังต่อความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับ โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย ที่กำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล ซึ่งซาอุดีอาระเบียได้ยืนยันชัดเจนว่า การยอมรับและแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์เป็นเงื่อนไขสำคัญ การประกาศยึดกาซาของทรัมป์จึงอาจทำลายความหวังในการสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าว