ภาคเอกชน หวังได้นายกฯ ตามกรอบระยะเวลา เดือนสิงหาคม 66

หลังการการโหวตนายกฯ ที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะได้เห็นเค้ารางที่ชัดเจน กับหน้าตาของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากการที่ล่าสุด นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชน 

โดยยืนยันว่า ได้มีการสั่งเลื่อน "โหวตนายกฯ" รอบที่ 3 ในวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ออกไปก่อน เพื่อรอศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีรัฐสภาเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี รอบที่ 2 ได้หรือไม่ ให้เสร็จก่อนนั้น

ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุว่า การที่ประชุมรัฐสภาได้เลื่อนลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป โดยยังคงมีการกำหนดวันที่ชัดเจนภายในเดือนสิงหาคมนั้น มุมมองของภาคเอกชนยังถือว่ารับได้

ทั้งนี้หากการพิจารณายังอยู่ในไทม์ไลน์ที่ภาคเอกชนคาดการณ์ ว่าจะได้นายกรัฐมนตรี และจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ได้ภายในเดือนสิงหาคม 2566 ในขณะที่หน้าตาของคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเวลานี้ยังมองไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร จากความไม่ชัดเจนต่างๆที่เกิดขึ้น

ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังรับได้กับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยเวลานี้ ที่ยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนประชาธิปไตย โดยใครจะมาเป็นผู้นำรัฐบาลนั้น ไม่ได้มีผลกับการตัดสินใจมากนัก แต่จะต้องมีกระบวนการที่เป็นไปตามกฎหมายอย่างถูกต้องตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด