รวมไทยสร้างชาติ เสียงแข็ง ไม่ร่วมรัฐบาล-ไม่โหวตนายกฯ ถ้ามีก้าวไกล

21 ก.ค. 2566 | 16:06 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ค. 2566 | 16:09 น.

หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยันเสียงเข็งมี “ก้าวไกล” ไม่มีเรา ประกาศไม่ร่วมเป็นรัฐบาล ไม่โหวตนายกฯ หากพรรคการเมืองใดที่มีก้าวไกลร่วมรัฐบาลเด็ดขาด

วันนี้ (21 กรกฎาคม) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ได้รับการสอบถามมาตลอดเวลาว่าแนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในการโหวตเลือกนายกฯ ต่อไปจะเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงแจ้งเพื่อความชัดเจนดังนี้

1.เราเห็นความสำคัญของการจัดตั้งรัฐบาล แต่ความมั่นคงของชาติบ้านเมืองและสถาบันหลักทั้งสามของชาติสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด 

2.เรายึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจึงไม่เห็นชอบกับบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ที่ผ่านมาทั้งสองครั้ง เพราะเราไม่เชื่อว่า พรรคก้าวไกลซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่บุคคลดังกล่าวสังกัดอยู่จะมีแนวทางเดียวกับเราอย่างแท้จริง

3.ในการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งต่อไปหากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมเป็นรัฐบาลด้วยเราก็จะไม่เห็นชอบกับบุคคลใดจากพรรคใดก็ตามที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ เพราะจากการดำเนินการทางการเมืองที่ผ่านมาของพรรคก้าวไกลทำให้เราไม่เชื่อว่าพรรคดังกล่าวจะเปลี่ยนแนวทางและอุดมการณ์ของพรรคได้ 

4.เราจะไม่ร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคการเมืองใดก็ตามที่นำพรรคก้าวไกลมาร่วมเป็นรัฐบาลด้วยอย่างเด็ดขาด เพราะกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ชัดเจนนะครับ

ก่อนหน้านี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุถึงการเลือกนายกฯและครม.ใหม่ก็เลือกไปตามกลไกประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ใครจะเป็นรัฐบาลก็เป็นไป

นายธนกร ระบุว่า ส่วนตัวก็ออกมาตั้งแต่ต้นว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้าน หรือเป็นฝ่ายไหนก็พร้อมหมด ไม่ว่าอยู่ตรงไหนถ้าทำหน้าที่ให้กับพี่น้องคนไทยได้ไม่มีความจำเป็น ต้องมาตีโพยตีพายออกมาปลุกระดมมวลชน เพราะจะทำให้บ้านเมืองย้อนไปสู่ความขัดแย้งอีก

ส่วนกรณีที่มีคำถามว่า ในลำดับต่อไปหากเกิดการพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้มีคนของทางเพื่อไทยส่งสัญญาณทาบทามหรือจีบแล้วหรือไม่นั้น นายธนกร ระบุว่าตามที่เลขาธิการพรรคออกมาพูดแล้วว่าตอนนี้ยังไม่มีการทาบทามหรือพูดคุยอะไรทั้งนั้น 

“จริง ๆ แล้วเราสามารถพูดคุยกับทุกคนได้อยู่แล้วแต่ต้องหารือภายในพรรคก่อน เพราะเราไม่ได้อยากเป็นโน้นเป็นนี่ซึ่งก็ต้องดูเหตุผลหลายด้าน การทำงานการเมืองเราเคารพมติพรรคและยังไม่ไปถึงตรงนั้นยังมีเวลาอยู่ยังไม่ได้มีการติดต่ออะไรและไม่ได้ไปแสวงหาที่จะพูดคุยซึ่งเราก็อยู่ของเราแบบนี้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด”