เอกชนโคราช-อุบลฯ ไม่เกี่ยงใครเป็นแกนนำ แนะจัดตั้งรัฐบาลเร็วที่สุด

19 ก.ค. 2566 | 08:40 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ค. 2566 | 12:14 น.

บิ๊กธุรกิจเมืองโคราช-อุบลฯ ไม่เกี่ยงใครเป็นแกนนำ หวังได้รัฐบาลมีเสถียรภาพ แนะจัดตั้งรัฐบาลเร็วที่สุด ห่วงยิ่งช้า เศรษฐกิจยิ่งชะงัก

อุณหภูมิการเมืองร้อนสุดขีด หลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พ่ายโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่งผลเกิดกระแสอาจพลิกขั้วการเมือง โดยพรรคเพื่อไทย อาจเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขณะพรรคก้าวไกล กลายเป็นพรรคฝ่ายค้าน 

"ฐานเศรษฐกิจ"สะท้อนมุมมองนักธุรกิจ ต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังโหวตนายกรัฐมนตรี วันนี้ (19 ก.ค.2566) 

นายหัสดิน  สุวัฒนพงศ์เชฎ   เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวแสดงความคิดเห็นกรณีการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันนี้ว่า  ภาคเอกชนกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า หากจะมีการเปลี่ยนพรรคการเมืองเป็นพรรคเพื่อไทยมาจัดตั้งรัฐบาล คิดว่ามีความเป็นไปได้สูง แต่จำเป็นต้องมีพรรคก้าวไกลร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพราะจะทำให้การเมืองสงบ ไม่มีการชุมนุมบนท้องถนน 

นายหัสดิน กล่าวว่า การโหวตเลือกนายกฯ วันนี้ จะผ่านหรือไม่นั้น หากเสนอชื่อนายพิธา  จากพรรคก้าวไกลเข้าไปอีกก็ไม่ทราบเช่นกัน การโหวตรอบแรกไม่ผ่านนั้นคงจะทำให้พรรคก้าวไกลต้องกลับมาทบทวนตัวเอง โดยเฉพาะเรื่อง มาตรา112 ที่เป็นเรื่องสำคัญทำให้การโหวตครั้งนี้ไม่ผ่าน

นายหัสดิน  สุวัฒนพงศ์เชฎ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ฉะนั้นในรอบที่ 2 ก็จะต้องปรับตัวเอง อาจจะดึงพรรคการเมืองอีกพรรคที่มีความเป็นกลางเข้ามาร่วมก็เป็นได้เพราะไม่ต้องพึ่งเสียงของ ส.ว.มากจนเกินไป หรือ อาจจะให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะ หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำอาจได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันพรรคก้าวไกลก็ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่

 ในส่วนของภาคธุรกิจเอง ไม่ได้มองว่าพรรคการเมืองใดจะจัดตั้งรัฐบาล  แต่เราอยากได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และต้องจัดตั้งให้เร็วที่สุด หากปล่อยไว้นานจะทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว  การลงทุนที่นักลงทุนไม่กล้านำเม็ดเงินมาลงทุนในช่วงนี้เพราะรอดูความชัดเจนทางการเมืองและนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลที่จะออกมาหลังจากนี้
 

นายหัสดิน  กล่าวอีกว่า หากจะให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านคิดว่าบ้านเมืองคงจะวุ่นวายมากกว่าเดิม จะมีการประท้วงบนท้องถนนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะประชาชนทั้ง 14 ล้านคนที่เลือกพรรคก้าวไกลคงไม่ยอมที่จะให้ ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ปัญหาก็จะไม่จบสิ้นในส่วนของก้าวไกลเองก็ต้องยอมรับเรื่องการโหวต

หากครั้งที่ 2 โหวตไม่ผ่านก็ควรถอยให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการ ส่วนจะใช้รูปแบบใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับการหารือกันของพรรคร่วม  แต่โดยส่วนตัวคิดว่าทางออก ที่ดีที่สุดตอนนี้คือพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยต้องร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล สิ่งที่ภาคเอกชนอยากฝากคือ

1.ให้รีบดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลทีมีเสถียรภาพโดยเร็ว

2. ลดความขัดแย้งในสังคมไม่ให้มีการชุมนุมขึ้นตามท้องถนน เพราะรายได้ของประเทศตอนนี้มาจากการท่องเที่ยว หากเรายังมีการชุมนุมบนท้องถนนเหมือนทุกวันนี้ ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวก็จะน้อยลงสุดท้ายไม่มีใครมาเที่ยวที่ประเทศไทยเลย

3. สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนโดยเร็วที่สุด เพราะประเทศต้องการเม็ดเงินจากกลุ่มทุนเนื่องจากการส่งออกปีนี้ไทยไม่ดี

ด้านนายสุดที่รัก  พันธ์สายเชื้อ  ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา

ด้านนายสุดที่รัก  พันธ์สายเชื้อ  ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า หากจะให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกลที่มีปัญหาและอุปสรรคในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีนั้น คิดว่า พรรคเพื่อไทยก็มีความเป็นผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะ มีความสุขุมมากกว่า  น่าจะเป็นทิศทางเชิงบวกมากกว่า แต่ขอให้เป็นการเปลี่ยนการเมืองอย่างสงบ นั่นหมายความว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลต้องตกลงกันเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าและเป็นผลดีกับประเทศชาติทุกคนต้องมองเห็นผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักสำคัญในเวลานี้

ประเด็นสำคัญที่สุดตอนนี้คือ ประเทศไทยต้องมีรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลแบบนั้นก็ค่อยมาดูกันอีกที เพราะการมีรัฐบาลจะส่งผลดีต่อประเทศมากกว่าการปล่อยเวลาให้เวลาเนินนานออกไป จะทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ตอนนี้ทุกคนต้องมองประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก และเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะจะหาทางออกในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี หากเป้าหมายเราคือประเทศชาติ คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหา

นายสุดที่รัก กล่าวย้ำอีกว่า ในส่วนของภาคเอกชนอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมองเห็นผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ  และควรได้รัฐบาลที่เสถียรภาพมาบริหารประเทศ เชื่อว่าควรเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ขณะที่นายพิธา  แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล  เองก็ออกมาพูดได้ดี และเชื่อว่าตัวคุณพิธาเองก็ทราบอยู่แล้วในเรื่องนี้  

ฉะนั้นคิดว่าเรื่องนี้จะจบโดยเร็ว เพราะประเทศชาติจะรอต่อไปอีกไม่ได้ ตอนนี้การท่องเที่ยว การลงทุน และเรื่องค่าครองชีพล้วนเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด และต้องมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศให้เร็วที่สุด 

ต่อข้อถามถึงภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาโดยรวมในช่วงไตรมาสที่ 3 นายสุดที่รัก กล่าวว่า ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดนครราชสีมาซึ่งเป็นประตูสู่ภาคอีสาน และเป็นจังหวัดใหญ่อันดับ2 รองจากกรุงเทพฯ โดยรวมอยู่ในภาวะซึม และค่อนข้างซบเซา ทุกคนไม่มีความมั่นใจ เนื่องจากการไม่มีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ

การลงทุนใหม่ ๆ ยังไม่มี ทุกคนประคับประคองตัวเอง  ให้ได้รัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพเข้ามาบริหารประเทศ  เชื่อว่าหากจัดตั้งรัฐบาลได้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ ได้อย่างแน่นอน

นายมงคล จุลทัศน์  ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี

นายมงคล จุลทัศน์  ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี  กล่าวว่าในมุมมองของภาคธุรกิจ เราเองอยากเห็นการจัดตั้งรัฐบาล ที่รวดเร็ว เพราะว่าที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นช่วงสูญญากาศทางการเมือง และความขัดแย้งคนในสังคมที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจค่อนข้างมาก เพราะหากภาคเอกชนจะลงทุนอะไรสักอย่าง

ภาครัฐบาลจะเป็นปัจจัยสำคัญ ต่อการตัดสินใจ เพราะหากเรามีผู้นำประเทศ หรือมีรัฐบาลเร็ว การขับเคลื่อนการลงทุน ในภาคธุรกิจ ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้ ทางภาคเอกชนมีความกังวลใจพอสมควรนั่นก็จะส่งผลต่อชะลอตัวของเศรษฐกิจ เช่นกัน

ในตอนนี้ เราอยากเห็นการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็น พรรคที่ได้รับคะแนนการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง อย่าง พรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว

แต่ถ้าหากพรรคก้าวไกล ติดขัดหรือสะดุดในขั้นตอนการการเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ผ่านจะด้วยกระบวนการใดก็ตาม ก็อยากให้พรรคการเมืองที่มีผลเลือกตั้งเป็นอันดับสอง คือ พรรคเพื่อไทยจัดการเลือกนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลมาบริหารประเทศให้โดยเร็วที่สุด

เพราะเรื่องของเศรษฐกิจต้องรีบขับเคลื่อน และ เรื่องปากท้อง ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่ช้าไม่ได้อีกแล้ว โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศของเรากำลังจะฟื้นตัวจากพิษเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดจำเป็นต้องได้รับการขับเคลื่อนโดยเร็ว

และอีกกลไกหนึ่งที่สำคัญในการบริหารประเทศ คืองบประมาณแผ่นดิน ที่เป็นปัจจัยโครงสร้างสำคัญของประเทศ ที่จะต้องกำหนดทิศทางของยุทธศาสตร์ และงบประมาณการพัฒนาประเทศชาติ อีกด้วย ถ้าหากการจัดตั้งรัฐบาลช้าการบริหารงบประมาณแผ่นดินก็ย่อมช้าไปด้วย โดยเฉพาะในภูมิภาคต่างจังหวัดมีความสำคัญในการด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่และแผนพัฒนาต่างๆจะรับผลกระทบไปด้วย

ที่สำคัญอีกประเด็นคือ ผู้บริหารประเทศจะต้องมาจากครรลองประชาธิปไตย ของรัฐธรรมนูญ และเป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่เพื่อลดความขัดแย้ง และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจและด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็ง 

ฉัตรสุรางค์ กองภา /ชลธิษ จันทร์สิงห์  รายงาน