“นิพนธ์”ลุยหาเสียง”สงขลา-สตูล”ย้ำนโยบาย ปชป.เน้นสร้างความยั่งยืน

11 พ.ค. 2566 | 09:01 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ค. 2566 | 09:05 น.

“นิพนธ์”ลุยเดินสาย”สงขลา-สตูล”ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ชี้นโยบายประชาธิปัตย์ เน้นสร้างความยั่งยืน ทำไม่ได้-เป็นปัญหา ปชป.ไม่ทำ

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยขอคะแนนเสียงช่วย น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 สงขลาเบอร์ 2 ณ สนามติดโรงเรียนเทศบาล 2 อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมด้วย ดร.รัชดา ธนาดิเรก ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายขื่อ และ ดร.อับดลรอหมาน กาเหย็ม ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายขื่อ และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ภาคใต้ ท่ามกลางพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขต 6 ให้ความสนใจมารับฟังการปราศรัยอย่างล้นหลาม

นายนิพนธ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องของนมโรงเรียนตั้งแต่ปี 2536 นายชวนคิด ประชาธิปัตย์ทำ ประชาธิปัตย์ประกาศต่อรอบหน้านี้ จะให้เด็กกินนมโรงเรียนทั้งปีคือ 365 วัน คิดมา 30 ปี ยังไม่มีใครกล้ายกเลิก 
 


เรื่องของกองทุน กยศ. นี่ก็นายชวน คิดประชาธิปัตย์ทำ เป็นนโยบายประชาธิปัตย์ เพื่อให้ลูกหลานพี่น้องได้เรียนหนังสือ เป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา เพราะทุกคนมีสิทธิ์เรียนหนังสืออย่างเท่าเทียมกัน 

ทุกวันนี้คนได้กู้เงินนี้ไปเรียนถึง 6 ล้านกว่าคน สมัยที่ท่านจุรินทร์ หัวหน้าพรรคเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา ให้ฟรีทั้งเครื่องแบบนักเรียน ฟรีกระเป๋า ฟรีรองเท้า ทัศนศึกษาฟรี นี่ประชาธิปัตย์ทำ และก็ยังให้ฟรีแก่เด็กนักเรียนจนถึงทุกวันนี้  

และในรอบหน้าประชาธิปัตย์ยังบอกอีกว่า ถ้าได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะให้เรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรี ในสาขาที่ขาดแคลน เพราะเมื่อเด็กจบมาแล้วจะได้มีงานทำ เลี้ยงครอบครัวได้ และจะไม่ป็นภาระของสังคม นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์คิดแบบนี้ จึงเป็นที่มาของคำนิยาม"สร้างคน" ของประชาธิปัตย์

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า พี่น้องอสม.เมื่อก่อนก็ถูกใช้งานฟรี แต่ประชาธิปัตย์เห็นคุณค่าของ อสม. นายกฯ อภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้เงินแก่ อสม.เป็นคนแรก และตอนนี้ประชาธิปัตย์ก็ส่ง นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุขไปดูแลสาธารณสุข และดูแล อสม.ทั่วประเทศ 

โดยได้จัดตั้งกองทุน อสม. มีสมาชิกล้านกว่าคน ใครเสียชีวิตเก็บคนละ ห้าสิบสตางค์ จะได้ห้าแสน และต่อมาประชาธิปัตย์คิดต่อโดยให้สมาชิกอสม.เอาสิทธิ์นี้ไปกู้ธนาคารได้ 3 แสนบาทในระหว่างมีชีวิตอยู่ 

นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์คิดเรื่องแบบนี้ และไม่กี่วันนี้ก็ได้เสนอต่อครม.แล้วว่า ในรอบหน้าถ้ามีเงินจะให้อสม.คนละ 2,000  นี่ประชาธิปัตย์คิดเพราะเราเป็นเจ้าของนโยบาย อสม. ประชาธิปัตย์คิด ประชาธิปัตย์ทำ นี่ถ้าไม่ดีจริงคงถูกยกเลิกไปแล้ว แต่นี่เป็นสิ่งที่ดี 

ผู้สูงอายุก็เช่นกัน คนคิดเรื่องผู้สูงอายุคนแรกก็คือ ท่านชวน หลีกภัย คิดมาให้ 200 และเพิ่มเป็น 300 เพื่อซื้อหมากซื้อพลูและให้เฉพาะคนจน เพราะฉะนั้น ลุงชวนคิดเรื่องของผู้สูงอายุ ประชาธิปัตย์คิดถึงเงิน อสม. คิดให้ลูกหลานได้เรียนหนังสือ เรื่องให้ลูกหลานกินนมที่โรงเรียน คิดเรื่องถนนสี่เลน และอีกหลายนโยบายที่พรรคคิด 

“นี่คือ เหตุที่ต้องเลือกประชาธิปัตย์ นี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาแล้ว และสิ่งที่ประชาธิปัตย์จะทำต่อไปคือ จัดตั้งธนาคารทุกหมู่บ้านและทุกชุมชน โดยให้หมู่บ้านละ 2 ล้าน และชุมชนอีก 2 ล้านบาท และอินเตอร์เน็ตฟรีทั่วประเทศ 1 ล้านจุด”

จากนั้น นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปจังหวัดสตูล เพื่อปราศรัยขอคะแนนเสียงให้กับผู้สมัคร ในเขต 1 นายซอบรี หมัดหมัน หมายเลข 3 และ เขต 2 นายเกตุชาติ เกษา หมายเลข 1 

นายนิพนธ์ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า หลายคนมากล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่ทำอะไรเลยนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะนโยบายที่ทุกพรรคการเมืองใช้หาเสียงทุกวันนี้ ที่โฆษณาจะให้นั่นให้นี่ เพิ่มนั่นเพิ่มนี่ ล้วนแล้วมาจากพรรคประชาธิปัตย์ทั้งนั้น 

ทั้งนโยบายเรื่องการศึกษาเรียนฟรี อุปกรณ์การเรียนฟรี นมโรงเรียน เบี้ย อสม. เบี้ยผู้สูงอายุ หลักประกันสุขภาพ และอีกหลายๆ นโยบายที่ประชาธิปัตย์ทำล้วนแล้วแต่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม สร้างประชาชนให้มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและสติปัญญา

จึงเป็นที่มาว่า ประชาธิปัตย์สร้างคน ซึ่งในทุกๆ เรื่องก่อนจะประกาศเป็นนโยบายได้ต้องกลั่นกรองมาอย่างดี ถ้าทำไม่ได้จะไม่ประกาศ ถ้าทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ เป็นปัญหากับประชาชนและประเทศชาติจะไม่ทำ 

“และถ้าทำแล้วไม่เกิดความไม่ยั่งยืนก็ไม่ทำ จึงทำให้นโยบายต่างๆ ของประชาธิปัตย์อยู่มาถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่ดีจริงคงถูกยกเลิกไปนานแล้วในหลายรัฐบาลนี่คือความยั่งยืนของนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ที่แต่ละพรรคเอาไปทำตาม” นายนิพนธ์ ย้ำ