กกต.ลุยสอบนโยบายหาเสียง ยันเลือกตั้ง66 เฟคนิวส์ลดลง

24 เม.ย. 2566 | 14:21 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2566 | 15:17 น.

เลขาฯกกต.พร้อมสอบนโยบายหาเสียง 70 พรรคการเมือง เข้าข่ายหลอกลวงปิดบังข้อเท็จจริงหรือไม่ เผยเลือกตั้ง 66 พบเฟคนิวส์น้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา เชื่อยังคุมได้ พร้อมจัดชุดเฝ้าระวังมือเหตุป่วน


นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงกรณีที่ กกต.ให้ 70 พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครส.ส. ชี้แจงที่มาการจัดทำนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ตามกระบวนการพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดให้พรรคชี้แจงนโยบายหาเสียงที่ต้องใช้จ่ายงบประมาณโดยต้องดำเนินการให้ครบเงื่อนไข

ส่วนจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ตามมาตรา 73 หรือไม่นั้น จะต้องมาพิจารณาดูว่า นโยบายนั้นสามารถทำได้หรือเข้าข่ายการปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งหรือไม่ นั่นอาจจะเข้าข่ายการหลอกลวง ตาม (5) ของมาตรา 73 ก็ได้

เลขาธิการกกต กล่าวว่า ช่วง  20 วันก่อนเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม เริ่มมีคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งเข้ามาที่อาจทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมทำให้การเลือกตั้งไม่เรียบร้อย เช่น วันเลือกตั้งอาจมีการทำลายบัตรเลือกตั้ง ต้องสืบสวนว่ามาจากฝ่ายไหน

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.

กกต.ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลกรณีการทำลายบัตรอย่างใกล้ชิด ส่วนการเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมมีบ้างที่เป็นข่าวไปแล้วและกกต.กำลังบริหารสถานการณ์อยู่


“กรณีที่เป็นข่าวที่เราได้ตรวจสอบ บางทีเป็นการสร้างคอนเท้นท์สร้างความสับสนมี 2-3 แห่งที่ตรวจสอบ เราต้องดำเนินการว่าเรื่องแบบนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ ส่วนกรณีที่ฝ่าฝืนกระทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม สำนักงานกกต.มีมาตรการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเครือข่ายที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจนถึง 14 พฤษภาคม” 

เลขาธิการกกต กล่าวว่า กกต.มีชุดเคลื่อนที่เร็วของสำนักงาน กกต. ชุดเคลื่อนที่เร็วของตำรวจ ชุดป้องปราม ชุดหาข่าว ผู้ตรวจการเลือกตั้งและภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม เชื่อว่าองค์ประกอบนี้จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มั่นใจด้วยมาตรการเช่นนี้จะสามารถบริหารสถานการจัดการเลือกตั้งได้ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม

ขอบคุณสื่อโซเชียลจากบริษัทไลน์  ติ๊กต๊อกประเทศไทย เฟซบุ๊ก และกูเกิ้ล ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์จัดการเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้พบว่ามีปัญหาเฟคนิวส์น้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา กรณีการให้ร้ายพรรคการเมืองและผู้สมัคร ซึ่งถือว่ายังเป็นไปด้วยดี