"ปชป."หนุนปลดล็อก "เซ็กซ์ทอย" ดันเป็นสินค้าควบคุมพิเศษ

24 เม.ย. 2566 | 09:27 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2566 | 09:35 น.

ปชป.”หนุนปลดล็อก“เซ็กซ์ ทอย”ให้เป็นสินค้าควบคุมพิเศษ ไม่ผิดกฎหมายอาญา คนซื้อต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป สินค้าต้องได้มาตรฐานรับรองคุณภาพ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำหนดให้เซ็กซ์ ทอย (Sex Toy) หรืออุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศ เป็นสินค้าต้องห้าม เป็นสิ่งที่ถูกมองว่าเข้าข่ายลามกอนาจาร เป็นอันตรายต่อสังคมและศีลธรรม รวมถึงถูกตีความเป็นวัตถุผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 และถูกจัดให้เป็นวัตถุที่เป็นของต้องห้ามตามความหมายในพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 

แต่เนื่องจากยังมีผู้ที่ต้องการสินค้าดังกล่าว จึงเกิดการลับลอบซื้อขายสินค้าชนิดนี้ ซึ่งไม่เพียงทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีสินค้า แต่ยังนำไปสู่ปัญหาการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ฉวยโอกาสเรียกรับสินบน อีกทั้งทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าดังกล่าว โดยเซ็กซ์ทอยที่มีจำหน่ายกันอยู่นั้นไม่มีความปลอดภัย เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร หรือผู้ใช้เกิดการติดเชื้อ
 

อย่างไรก็ตาม ที่จริง เซ็กซ์ทอยเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่อนคลายอารมณ์ ลดความเครียด หรือใช้ในการกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้ที่มีปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ รวมถึงเป็นสิ่งที่ช่วยลดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน โดยเซ็กซ์ทอยมีรูปร่างแตกต่างกันไปตามวิธีการใช้งาน อาทิ ไวเบรเตอร์ ตุ๊กตายาง ดิลโด นอกจากนี้ เซ็กซ์ทอยยังมีประโยชน์ด้านสังคม เพราะสินค้าประเภทนี้จะสามารถลดการค้าบริการ และปัญหาการหย่าร้างจากความต้องการทางเพศที่ไม่สมดุล ที่สำคัญจะมีส่วนช่วยลดอัตราการก่ออาชญากรรมทางเพศ 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์

โดยในประเทศไทย สถิติคดีการล่วงละเมิดทางเพศและคดีอาชญากรรมทางเพศ เฉลี่ย 5 ปี ของคดีข่มขืนเฉพาะที่มีการแจ้งความ เกิดคดีข่มขืนปีละประมาณ 4,000 คดี จับคนร้ายได้ 2,400 คดี แต่เมื่อมีการทำวิจัย กลับได้ข้อสรุปว่า มีคดีข่มขืนที่ไม่ได้แจ้งความประมาณร้อยละ 87 ซึ่งหมายความว่า 1 ปี อาจมีการก่อคดีข่มขืนในไทยมากถึง 30,000 คดี

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ในแง่เศรษฐกิจ จากรายงานของบริษัทวิจัย เทคนาวิโอ ของประเทศอังกฤษ ได้คาดการณ์การเติบโตของตลาดเซ็กซ์ทอย ช่วงปี 2562-2566 ว่าจะเติบโตต่อเนื่องปีละ 7 เปอร์เซ็นต์ สร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 3 แสนกว่าล้านบาท โดยประเทศอินเดียและจีนเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด ขณะเดียวกัน มีหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก ที่จัดให้เซ็กซ์ทอยเป็นสินค้าถูกกฎหมาย ประชาชนสามารถครอบครอง มีไว้จำหน่ายได้ 

รวมถึงมีเซ็กซ์ช็อปที่จำหน่ายสินค้าอย่างเปิดเผย และสร้างรายได้จำนวนมาก สำหรับประเทศไทยยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าควรปลดล็อกให้เซ็กซ์ทอยเป็นสินค้าถูกกฎหมายหรือไม่ แม้มีฝ่ายที่สนับสนุน แต่ก็มีอีกฝ่ายที่โต้แย้งหรือห่วงกังวลด้วยเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา หรือเกรงว่าอาจส่งผลกระทบกับศีลธรรมและวัฒนธรรมของไทย