ผู้เชี่ยวชาญ ระบบขนส่งสาธารณะ EV เบนเข็มสู่การเมือง เพราะโควิด

14 เม.ย. 2566 | 06:44 น.
639

"ศุข ศักดิ์ณรงค์เดช" จากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญระบบขนส่งสาธารณะไฟฟ้า เบนเข็มสู่งานการเมือง เพราะสถานการณ์โควิด-19 เห็นปัญหาประเทศ ความยากลำบากทางเศรษฐกิจ อาสาแก้ปัญหา ข้ามความขัดแย้ง

"ในช่วงที่ผมทำงานอยู่ในภาคเอกชน ได้เห็นปัญหาจากการต้องประสานงานกับภาครัฐ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคและปัญหาหลักในการพัฒนาประเทศ จึงต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลง ให้ประเทศไทยปราศจากการทุจริตคอรัปชั่น"

นี่คือแรงบันดาลใจแรก ของ "ศุข ศักดิ์ณรงค์เดช" ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 5 พรรคไทยสร้างไทย ในการเข้าสู่สนามการเมือง

ในระหว่างทาง เป็นช่วงที่ประทศไทยเผชิญกับสถานการณ์ Covid-19 เขาได้เห็นถึงความยากลำบากของประชาชนในขณะนั้น จึงเข้าเป็นอาสาสมัครกับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อช่วยประสานหาเตียงให้ผู้ป่วยทั่วกรุงเทพ เขาเล่าว่า ช่วงเวลานั้น ทำงานตั้งแต่ตี5 จนถึงตี1เป็นอย่างนี้มาตลอด จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงเปิดรับสมัครสมาชิกสภากรุงเทพฯ

ศุข ศักดิ์ณรงค์เดช

ศุข ศักดิ์ณรงค์เดช ได้ลงสู่สนามการเมืองครั้งแรก กับการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานครปี 2565 เนื่องจากการชวนของผู้ใหญ่ในทางการเมือง ที่เห็นถึงความตั้งใจจริงในการช่วยเหลือประชาชน และความมีจิตสาธารณะ ซึ่งเขาตอบรับลงสมัคร ส.ก. เพราะเห็นว่างานการเมืองจะทำให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น

แม้จะไม่ได้รับเลือกตั้งในสนาม กทม. แต่ศุข ยังคงมีความมุ่งมั่น ที่จะใช้ความรู้ความสามารถ ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ในระดับปริญญาตรี จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และความเชี่ยวชาญด้านระบบขนส่งสาธารณะไฟฟ้า(EV) มาปรับใช้เพื่อต่อยอด พัฒนาประเทศ

ศุข ศักดิ์ณรงค์เดช กลับสู่สนามเลือกตั้งอีกครั้ง ในฐานะผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) เขต5 วังทองหลางห้วยขวาง พรรคไทยสร้างไทย พร้อมไอเดียการสร้างงานสร้างอาชีพ ให้กับประชาชนในพื้นที่ ด้วยแอปพลิเคชั่น ที่จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระหว่างนายจ้าง ที่ต้องการแรงงาน และลูกจ้าง ที่มีความสามารถในการทำงานด้านต่างๆ โดยแอปฯนี้ ศุข ตั้งใจให้เป็นจุดศูนย์กลางทั้งการหางาน และให้ความรู้ เพิ่มทักษะให้กับแรงงาน ไปพร้อมๆกัน

ศุข ศักดิ์ณรงค์เดช สิ่งที่เขามองเห็นตนเองในงานการเมือง ก็คือการลงมือทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงความสำเร็จ และคนรุ่นใหม่ต้องมาสู่งานการเมือง

"คนรุ่นใหม่จะต้องเข้ามาบริหารบ้านเมืองในอนาคต เด็กๆเหล่านี้ควรจะได้รับโอกาสที่จะเข้ามาร่วมกันออกแบบประเทศที่เหมาะสมกับพวกเค้า ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปรูปแบบการบริหารประเทศสมควรจะต้องเปลี่ยนตาม เราต้องมีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างประเทศในฝันของพวกเขา ให้เขาคิดแล้วให้ผู้ใหญ่ทำต่อจากนี้ พอเด็กๆเหล่านี้โตขึ้นทุกอย่างจะกลมกลืนไปกับพวกเค้า ผู้ใหญ่ทั้งหลายต้องห้ามยัดเยียดอีกต่อไป" นี่คือมุมมอง ของศุข ศักดิ์ณรงค์เดช

ศุข ทิ้งท้ายกับฐานเศรษฐกิจว่า ทุกคนต้องร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ ทุกคนต้องมองอนาคตต้องอดทนและไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้ ประเทศต้องมีความสามัคคีปรองดอง มีรัฐบาลที่ห่วงใยประชาชน และพร้อมที่จะสนับสนุนและส่งเสริมประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ต้องมีระบบเศรษฐกิจที่สนับสนุนคนไทยด้วยกันเอง ยกระดับประเทศกลับมาให้ได้ คนต้องมีการศึกษามีโอกาส และรักประเทศของเรา