ผ่าเปรี้ยงแบบ “หมอวรงค์” ให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทมส์ 9 เรื่องโลกต้องรู้

31 มี.ค. 2566 | 09:54 น.
อัปเดตล่าสุด :31 มี.ค. 2566 | 10:11 น.

“หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทมส์ สื่อใหญ่ของสหรัฐ ย้ำ 9 เรื่องที่อยากบอกกล่าวต่อชาวโลกเกี่ยวกับการเมืองไทย

 

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom” วันนี้ (31 มี.ค.) ในหัวข้อ "ให้สัมภาษณ์ NewYorkTimes" มีรายละเอียดเนื้อหาที่หวังให้ชาวต่างชาติ มีความเข้าใจเบื้องลึก-เบื้องหลัง การเมืองไทย ตลอดจน การเลือกตั้ง ที่กำลังจะมาถึง เพิ่มขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย ดังนี้  

ในช่วงเลือกตั้งครั้งนี้ ผมได้โอกาสให้สัมภาษณ์พิเศษ New York Times โดยคุณ Sui-Lee Wee ตำแหน่ง Southeast Asia Bureau Chief ที่พรรคไทยภักดี ผมได้สรุปประเด็นสำคัญให้ทราบว่า ผมสื่อสารกับชาวโลกอะไรบ้าง

1.ผมมีความรู้สึกว่าปัญหาของประเทศเกิดจากนักการเมืองทุจริต ร่วมกับทุนผูกขาด และทุนผูกขาดก็นำเงินมาให้พรรคการเมือง มาลงเลือกตั้ง และเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วทุนผูกขาดก็เข้ามาครอบงำพรรคการเมือง และสุดท้ายมาครอบงำรัฐบาล และนำไปสู่การหาประโยชน์ซึ่งกันและกัน จึงเป็นเหตุที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ ม.112 ไม่เคยทำให้ประชาชนเดือดร้อน

2.ผมพยายามศึกษามาโดยตลอด ผมไม่เคยเห็นสถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศไทยสร้างปัญหาให้กับประชาชน แต่สถาบันฯกลับเป็นศูนย์รวมยึดเหนี่ยวของความเป็นคนไทย นี่คือเหตุผลที่เรามีความรู้สึกว่า สถาบันฯ มีความจำเป็น ถ้าหากไม่มีสถาบันฯ ผมมองว่าประเทศไทยแตกแยก

หมอวรงค์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว New York Times (ขอบคุณภาพจากเพจวรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom)

3.เรื่องการสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปัจจุบันผมไม่ได้สนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมว่าเขาทำหน้าที่ได้ดี และผมก็สนับสนุนเขา ผมยืนบนหลักความถูกต้อง อะไรที่ไม่ถูกต้องแล้วมีการตำหนิรัฐบาล ผมไปช่วยอธิบายเสมอ แต่หลังจากช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มันมีการคอร์รัปชันเยอะมาก และผมมองว่าเขาเอื้อประโยชน์กับทุนผูกขาด ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เราอาจจะเป็นพันธมิตรกันในการปกป้องสถาบันฯ แต่การต่อสู้เพื่อประชาชน ผมและเขาคิดต่างกัน ผมมีนโยบายในการส่งเสริมทุนขนาดกลางและขนาดเล็กให้เข้มแข็ง ซึ่งจะทำให้ประเทศเข้มแข็งตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม หลังเลือกตั้งเรามาร่วมกันได้ เพราะผมไมร่วมกับเพื่อไทยกับก้าวไกล

4.ฝ่ายที่พยายามจาบจ้วงยกตัวอย่างการชูนิ้ว/พ่นสี ด่า ให้ร้าย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่วิถีของคนไทย/การปล่อยเฟกนิวส์ เราจึงออกมาอธิบายความจริง เป็นหน้าที่ในการแสดงออกของพวกเรา พวกเขาพยายามใช้โซเชียลมาปั่นกระแส

5.เราไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเจอกับคนรุ่นใหม่นี้โดยตรง ทำให้เราต้องประชาสัมพันธ์ออกไปผ่านทางสื่อโซเซียล ทั้งที่ความจริงแล้วผมพร้อมคุยทุกที่ แม้เวลามีกิจกรรมเหล่านี้ เขาจะไม่ค่อยเชิญผมหรอก ทั้งในประเด็น ม.112 ทั้งๆที่ผมมีข้อมูลชัดเจนและเป็นความจริง

6.ผมเชื่อว่า ปัญหาเรื่องเกี่ยวกับมาตรา112 ถูกแซกแทรงจากตะวันตก โดยชี้ให้เห็นว่า

-การเกิดขบวนการ 3 นิ้ว จากประเทศอื่นๆ เชื่อว่ามีการเชื่อมโยง

-องค์กร NGO แอมแนสตี้ พยายามเข้ามาปกป้องกลุ่มคนที่ออกมาแสดงพฤติกรรมนี้

-ตัวแทนทูตประเทศต่างๆพยายามเข้ามาวุ่นวาย และเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดโดยธรรมชาติ

-มีการถือธงชาติอุยกูร์ ทิเบต ไต้หวัน ฮ่องกง ในการชุมนุมหลายครั้ง

นี่เป็นภาพรวมที่ทำให้ผมคิดว่ามีขบวนการแทรกแซง

7.ประเด็นเมืองไทยไม่มีเสรีภาพในการพูด ผมมองว่าไม่จริง แต่มีมากจนล้น เพียงแต่เขาใช้วาทกรรมว่า ต้องการพื้นที่ปลอดภัย หลอกคนต่างชาติที่ไม่เข้าใจ และปั่นกระแสหลอกให้คนเข้าใจผิด ที่สำคัญคนพวกนี้ชอบด่า ให้ร้าย เผารูป พ่นสี ไม่ได้พูดแบบมีเหตุผล

8.ผมพยายามสื่อสารว่า ทิศทางประชาธิปไตย มีทิศทางการพัฒนา 2 ทิศทาง คือ 1) republic และ 2) kingdom แต่เราจะไปในทิศทางของ kingdom เพราะเรามีรากทางวัฒนธรรมที่ยาวนานมา7-800ปี ควรจะไปแบบอังกฤษ นอรเวย์ ไม่ใช่ฝรั่งเศสหรืออเมริกา

9.สรุปปิดท้ายว่า พรรคไทยภักดีประกาศไม่รับเงินจากนายทุนผูกขาด และพร้อมเข้ามาปราบโกง ปราบทุจริต

ที่สำคัญ เมื่อพูดถึงนักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมกับฝ่ายประชาธิปไตย ผมบอกอย่างเต็มปากว่า นักการเมืองไทยส่วนใหญ่ ไม่มีอุดมการณ์ มีแต่เข้ามาทุจริต